'กฤษฏา' สั่งทุกหน่วยกษ.ประหยัดงบฯ

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการวางแผนจัดสรรน้ำรับมือฤดูแล้งนี้ ว่าสั่งให้กรมชลประทาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปรับระบบวิธีใหม่การรายงานสถานการณ์น้ำให้กับประชาชน

ทั้งนี้ได้รับทราบข้อเท็จจริงถึงผลกระทบในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ใช่มีแต่การรายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนในอ่างต่าง ๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ ยกตัวอย่างเช่นพื้นที่ภาคเหนือ ให้กรมชลประทานไปดูมีแหล่งน้ำธรรมชาติกี่แห่งมีปริมาณน้ำเท่าไหร่ และในแหล่งกักเก็บน้ำจากการก่อสร้าง ในปัจจุบันเหลือปริมาณน้ำเท่าไหร่ หากเกิดภาวะแห้งแล้ง จะเพียงพอหรือไม่พร้อมมาตรการแก้ไข

โดยแยกเป็น 3 น้ำ คือ อุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร ซึ่งการรายงานว่าน้ำในเขื่อนเหลือเท่าไหร่ยังรับน้ำได้อีก ไม่ต้องรายงานเพราะประชาชนอยากรู้ว่าจะมีน้ำพอใช้กี่เดือนและถึงเมื่อไหร่ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักและประหยัดการใช้น้ำไปด้วย นอกจากนี้การทำฝนหลวงซึ่งมีศูนย์ฝนหลวง 9 หน่วยทั่วประเทศ ให้รายงานด้วยว่าในทุกสัปดาห์ ขึ้นทำฝนกี่ครั้ง และปริมาณฝนจากการทำฝนหลวง ทำให้มีฝนตกเท่าไหร่พื้นที่ไหน

"ยอมรับว่าภาคเอกชนมีความกังวลเรื่องปริมาณน้ำเขื่อนมีพอใช้ตลอดฤดูแล้งหรือไม่ ทั้งนี้ฤดูฝนที่ผ่านมาไปตกในส่วนขอบด้านซ้าย-ขวา ของประเทศ แนวแม่น้ำโขงและแถบเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนกลางประเทศ มีฝนไม่มาก อย่างไรก็ตามผมมั่นใจว่าระบบการจัดการน้ำ การคาดการณ์ที่แม่นยำ มีน้ำเพียงพอ อุปโภค - บริโภคในหน้าแล้งนี้ ส่วนน้ำภาคเกษตร จะลดพื้นที่นาปรังลง 2 ล้านไร่ ปลูกพืชอื่นจะประหยัดน้ำได้ถึง 3 เท่า" นายกฤษฏา กล่าว

นอกจากนี้ นายกฤษฏา  ยังกล่าวถึงการใช้งบประมาณแต่ละหน่วยงานในกระทรวง ว่า ให้ทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯใช้นโยบายประหยัดงบประมาณในการทำงานภารกิจต่างๆทุกพื้นที่ โดยเฉพาะการต้อนรับ 3รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ เช่นที่สนามบิน  ให้มีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับแค่ 2-3 คนไม่ต้องยกคณะกันมา และการเดินทางไปไหนไม่ต้องใช้รถนำขบวน  อีกทั้งการจัดงานต่างๆต้องลดขั้นตอนลง ไม่จำเป็นต้องจ้างบริษัทออแกไนซ์ ให้ตัดออกไปจะได้ประหยัดงบ โดยแต่ละหน่วยงานทำกันเองซึ่งมีข้าราการ เจ้าหน้าที่ ประจำทุกจังหวัด รู้พื้นที่ดีอยู่แล้ว รวมทั้งกรมหรือหน่วยงานที่เป็นเจ้าของโครงการ จะต้องเป็นเจ้าภาพทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค