ครม.ไฟเขียวแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูเกษตรล็อตแรกเฉพาะลูกหนี้ ธกส. 3.6 หมื่นราย

ครม.ไฟเขียวแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูเกษตรล็อตแรกเฉพาะลูกหนี้ ธกส. 3.6 หมื่นราย

ครม.ไฟเขียวแก้หนี้กองทุนฟื้นฟูเกษตรล็อตแรกเฉพาะลูกหนี้ ธกส. 3.6 หมื่นราย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างยั่งยืน ในส่วนที่เป็นลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยให้ ธ.ก.ส.ดำเนินการพักหนี้เงินต้นครึ่งหนึ่งและดอกเบี้ยทั้งหมด ให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรอย่างยั่งยืน (กฟก.) จำนวน 36,605 ราย ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ วันที่ 31 ธ.ค.2560 โดยเงินต้นครึ่งหนึ่งให้เกษตรกรผ่อนจ่ายตามกรอบเวลาไม่เกิน 15 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยที่อัตรา MRR-3 และเมื่อเกษตรกรผ่อนจนหมดแล้ว ธ.ก.ส.จะพิจารณายกดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ ส่วนเงินต้นที่เหลืออยู่อีกครึ่งก็ให้เกษตรกรให้มาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มเกษตรกรกฟก. ที่ขึ้นทะเบียนและเป็นลูกหนี้ของธ.ก.ส. เป็นหนี้เอ็นพีแอล วงเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวน 36,605 ราย คิดเป็นยอดหนี้เงินต้น 6,382 ล้านบาท และดอกเบี้ย3,829 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้เสร็จแล้วในระยะเวลา 3 ปี หลังจากครม.มีมติเห็นชอบ มีเป้าหมายปรับโครงสร้างหนี้ให้ได้ปีละ 12,202 ราย ส่วนงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ จะใช้งบสำหรับฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามโครงการ ซึ่งจะใช้งบปรกติของกฟก.ในการดำเนินการ

สำหรับการดำเนินการดังกล่าว จะทำภายใต้เงื่อนไข คือ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นหนี้เอ็นพีแอล มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นเกษตรกรลูกหนี้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ต้องชำระตามที่มาของแหล่งรายได้อย่างน่อยปีละ 1 ครั้ง กรณีผิดนัดชำระหนี้ ธ.ก.ส.จะคิดอัตราดอกเบี้ยในส่วนของเงินต้นที่ค้างชำระในอัตราสูงสุด รวมดอกเบี้ยปรับ 3% แต่มีข้อยกเว้นกรณีประสบภัยพิบัติ กรณีเกษตรกรมีปัญหาสุขภาพ และกรณีมีเหตุจำเป้นอื่นๆ โดยจะมีคณะทำงานร่วมพิจารณา และหากสุดท้ายเกษตรกรลูกหนี้กลับมาเป็นหนี้เอ็นพีแอล เกษตรกรลูกหนี้ต้องรับภาระหนี้ตามนิติกรรมเดิม ซึ่งจะถูกเรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมด รวมทั้งดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้เรียกเก็บในส่วนของหนี้ที่ปรับโครงสร้างแล้วด้วย