แจ้งข้อหา 5 ราย คดีนักธุรกิจหญิงขับกระบะจมน้ำในอุโมงค์มรณะดับ

แจ้งข้อหา 5 ราย คดีนักธุรกิจหญิงขับกระบะจมน้ำในอุโมงค์มรณะดับ

แจ้งข้อหาประมาท “นิติบุคคล-รปภ.หมู่บ้านฯ” 5 ราย โทษฐานทำให้สาวนักธุรกิจอสังหา ขับรถจมน้ำในอุโมงค์มรณะย่านประเวศดับ

จากกรณี น.ส.ภาณุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯอสังหาริมทรัพย์ ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ หมายเลขทะเบียน 7 กต 2080 กรุงเทพมหานคร เข้าไปจมน้ำภายในอุโมงค์ทางลอดของหมู่บ้าน ที่เชื่อมต่อไปยังซอยอ่อนนุช 65 แยก 14 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นเขตความรับผิดชอบของ สน.ประเวศ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30น. วันที่ 30 ก.ย.2561 ที่สน.ประเวศ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ , ศ.ดร.สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมคณะกรรมการ​ตรวจสอบ​ข้อ​เท็จจริง​ ร่วมกันรายงานสรุปผล และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 5 ราย

ศ.ดร.สุชัชชวีร์ กล่าวว่า สาเหตุของน้ำท่วมอุโมงค์นั้น เกิดจากระบบระบายน้ำมีความบกพร่อง ทั้งนี้ อุโมงค์ทุกทางลอดต้องมีการยื่นแบบผ่านทางสำนักงานเขต โดยจะเน้นในเรื่องความปลอดภัยสำคัญสุด และต้องเข้าใจว่า น้ำในกรุงเทพฯนั้นอยู่สูงเสมอ ถ้าฝนตกน้ำจะไหลเข้าอุโมงค์โดยตรง ซึ่งอุโมงค์ในจุดเกิดเหตุนั้น อยู่ใต้ทางลอดรางรถไฟ จึงทำให้มีน้ำจากลำธารสาธารณะไหลเข้ามาด้วย ซึ่งใต้อุโมงค์นั้นจะต้องมีบ่อรับน้ำเพื่อให้น้ำไหลไปตามท่อของบ่อรับน้ำไปสู่บ่อสูบ ซึ่งแยกจากอุโมงค์ จากนั้นน้ำจะไหลตามแรงโน้มถ่วงผ่านบ่อสูบไปยังเครื่องสูบน้ำ และจะมีการนำน้ำออกอัตโนมัติ ทำให้น้ำไม่ท่วมอุโมงค์

แต่จากการตรวจสอบพบว่า บ่อรับน้ำของอุโมงค์นี้ มีแต่ตะกอนทรายโคลน คาดว่าบ่อรับน้ำมีการรั่วซึม ทำให้ตะกอนดังกล่าวไหลเข้ามาในบ่อ จนเกิดการทรุดตัว แล้วทำให้ท่อของบ่อรับน้ำขาด น้ำเลยไปไม่ถึงบ่อสูบ ยิ่งฝนตกน้ำจึงเอ่อล้นท่วมอุโมงค์ดังกล่าว

ศ.ดร.ชัชชวีร์ กล่าวด้วยว่า มีอุโมงค์แบบนี้ในกรุงเทพฯเยอะ วิธีแก้ไขหากพบข้อบกพร่องเหล่านี้คือ การติดเซนเซอร์ที่บ่อสูบน้ำ หากพบว่าฝนตก แต่บ่อสูบน้ำไม่มีน้ำ เซนเซอร์จะดังเพื่อแสดงว่าท่อมีปัญหา และหากน้ำเอ่อล้นเข้าอุโมงค์ เซนเซอร์ก็จะดังส่งสัญญาไปยังไม้กั้น หรือ รปภ. ที่ดูแลอุโมงค์ กันไม่ให้รถเข้าออกอุโมงค์ ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถทำได้ ทั้งนี้อุปกรณ์ของอุโมงค์มีรอบระยะเวลา ต้องทำการตรวจสอบอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ยิ่งหน้าฝนต้องตรวจสอบทุกวัน หากเจอตะกอนต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ซึ่งเครื่องสูบน้ำของอุโมงค์ จะมีปัญหาหรือไม่ ไม่มีใครทราบ แต่รู้ว่าบ่อรับน้ำมีปัญหาจึงนำไปสู่การที่น้ำท่วมอุโมงค์ดังกล่าว

ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้เกิดจากความประมาท 2 ส่วน คือ1.ทางฝ่ายนิติบุคคลที่บริหารหมู่บ้าน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกลับไม่ทำหน้าที่ จนมีผู้เสียชีวิต และ 2.รปภ.ในช่วงที่น้ำท่วมอุโมงค์ เพราะก่อนจะเกิดเหตุ มีรถที่เข้าอุโมงค์ก็เจอน้ำท่วมแล้ว ทาง รปภ. ควรจะห้ามเข้าอุโมงค์ได้แล้ว แต่กลับไปอยู่ในป้อม คดีนี้ถ้าพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีก ก็จะทำการออกหมายเรียกต่อไป ไม่มีการละเว้น ถึงใครก็ดำเนินคดีหมด ในกรุงเทพฯมีอุโมงค์ลักษณะดังกล่าวอีกกว่า 10 อุโมงค์ หากไม่สืบค้นความจริงในคดีนี้ โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ ก็อาจเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีก

ดังนั้น จึงอยากจะขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบอุโมงค์ต่าง ๆ ด้วย วันนี้ได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 5 คน มีทาง รปภ.มามอบตัว 3 คน ส่วนนิติบุคคลอีก 2 คน จะมามอบตัวในวันพรุ่งนี้ และขอสื่อมวลชนว่า อย่าได้นำเสนอชื่อจริงของบุคคลทั้ง 5 คน เพราะเป็นสิทธิของผู้ต้องหา และการดำเนินคดี ทาง รปภ.ที่ถูกแจ้งข้อหานั้น อาจมีระยะเวลานาน ระหว่างนั้นทาง รปภ. อาจไปสมัครทำงานที่อื่น ก็อาจจะไม่ได้งาน จึงขอให้เคารพในสิทธิดังกล่าวด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า น้ำเริ่มเข้าไปในรถครึ่งคัน แล้วมีข้อสงสัยจากสังคมว่า ทำไมผู้ตายไม่เปิดประตูรถหนีออกมาเลย ต้องขอชี้แจงว่า ตอนเกิดเหตุรถได้ขับจมไปในอุโมงค์เลย ทำให้น้ำล้อมรถ และน้ำเริ่มจะซึมเข้ามาในรถ ผู้ตายไม่สามารถเปิดประตูรถได้ เพราะมีความดันน้ำกดไว้รอบคัน เหตุเกิดเวลา 00.40 น. ในเวลา 00.43 น. ผู้ตายโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน และพอถึงเวลา 00.46 น. ก็ติดต่อผู้ตายไม่ได้อีก ทั้งนี้ การที่น้ำล้อมรถทั้งคันนั้น ต่อให้เป็นผู้ชายก็เปิดประตูรถไม่ได้ กดกระจกลงก็ทำไม่ได้ เพราะรถจมน้ำ ระบบเครื่องรถก็จะหยุดทำงานหมด อีกทั้งผู้ตายยังตกใจและว่ายน้ำไม่เป็น จึงเกิดเหตุดังกล่าว ตรงนี้ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว ขอแนะนำว่า หากใครเจอเหตุการณ์นี้ ขอให้ดึงที่พิงศีรษะออกจากเบาะ แล้วเอาเหล็กของที่พิงงัดกับกระจก หรือไม่ก็พกไขควงติดรถไว้ด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องทั้ง 5 คนประกอบด้วย ประธานนิติบุคคลของหมู่บ้าน ผู้จัดการนิติบุคคล และรปภ.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะเกิดเหตุอีก 3 คนในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป