'องอาจ' ค้าน รบ. จ่อออกกม. สอดไส้ยกเลิก สข. ลดอำนาจปชช.

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงร่างระเบียบบริหารราชการ กทม. ร่วมกับร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่น 5 ฉบับกำลังเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในสัปดาห์นี้ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่า มีปัญหาอยู่ที่ร่างพ.ร.บ.บริหารราชการ กทม. โดยในมาตราสุดท้ายของร่างนี้มีการดำเนินการต่างจากกฎหมายฉบับเดิม ซึ่งได้ระบุว่า ให้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยรเบียบบริหารราชการ กทม.ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศโดยเร็ว โดยระหว่างนี้ยังไม่ให้บังคับใช้มาตรา 71-80 ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง สข. เท่ากับว่าให้มีสข.แต่ไม่ให้มีการเลือกตั้งจนกว่าจะเข้าเงื่อนไขดังกล่าว

นายองอาจ กล่าวต่อไว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการขุดหลุมพรางตบตาประชานให้เกิดความเข้าใจผิดว่ายังมี สข. อยู่แต่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ตนจึงเสนอว่าทางที่ดีรัฐบาลควรปล่อยให้มีการเลือกตั้ง สข. ไปก่อน เพราะมีอยู่แล้วจนกว่าจะปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ ความพยายามที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง สข. ด้วยการเขียนกฎหมายซ่อนไว้จะกระทบกับประชาชน 4 ประการ คือ 1.ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิเลือกผุ้แทนท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด 2.ทำให้ไม่มีผูแทนประชาชนร่วมพัฒนาเขตและนำปัญหาประชาชนไปสู่การแก้ไข 3.ทำให้อำนาจของประชาชนลดลง ในยุคปัจจุบันที่กำลังเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนมากที่สุดและลดอำนาจรัฐลง แต่ขณะนี้กลับลดอำนาจประชาชนด้วยการพยายามใช้วิธีการแต่งตั้งกลุ่มคณะบุคคลที่เรียกว่าประชาคมเขตจากการแต่งตั้งของผอ.เขต ทำให้อำนาจประชาชนลดลงเพิ่มอำนาจรัฐ 4 ทำให้ไม่มีผู้แทนของประชาชนในระดับท้องถิ่นตรวจสอบผู้บริหารเขตจะทำให้มีการแสวงประโยชน์โดยง่าย พรรคประชาธิปัตย์จึงขอให้รัฐบาลทบทวน และให้มีการเลือกตั้งสข.ที่มีการดำเนินการมา 28 ปี แล้ว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตยกล่าวอีกว่าส่วนแนวคิดที่อ้างว่า สข.จะเป็นหัวคะนนนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะ สข.เป็นตัวแทนประชาชนไม่ใช่หัวคะแนนของใคร เพียงแตต่ภาระหน้าที่อยู่ในระดับเขต ถ้ารัฐบาลจะยกเลิกหรือไม่ให้มี สข.เพราะเป็นหัวคะแนนก็ต้องยกเลิกการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมด ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ถูกต้อง จึงเห็นว่าความพยายามที่จะยกเลือกเพราะคนเหล่านี้เป็นเสี้ยนหนามตำเท้าของข้าราชการส่วนหนึ่งที่มีความประพฤติมิชอบ เพราะไม่อยากให้มีผู้แทนประชาชนมาตรวจสอบตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก สข.ต่อไปอาจจะมีการขยายผลไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ตนจะนัดพูดคุยกับ สข,สส.กทม. สมาชิกสภากทม.และสาขาพรรค เพื่อดำเนินการทำให้สังคมโดยทั่วไปรวมทั้ง สนช.ได้เข้าใจและพิจารณาเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ต่อไป แต่จะดำเนินการอย่างไรขอปรึกษาหารือกันก่อน