คืบหน้า! ปฏิบัติการปราบโกงภาษีน้ำมัน ลุย6จุดทั่วประเทศ

คืบหน้า! ปฏิบัติการปราบโกงภาษีน้ำมัน ลุย6จุดทั่วประเทศ

ผู้การปปป. เผยความคืบหน้า ปฏิบัติการปราบโกงภาษีน้ำมัน หลังลุย 6 จุดทั่วประเทศ ค้นบ้านพักจนท.สรรพสามิต-ศุลกากร

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นที่พักอาศัยของผู้กระทำความผิดตาม “ยุทธการปราบโกงภาษีน้ำมัน” โดยได้ปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป. ร่วมกับปปง. , บก.ปอศ , ปปท. และทหารรวมกว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นเป้าหมายที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมกับบริษัทเอกชนในธุรกิจน้ำมันแห่งหนึ่งที่เลี่ยงเสียภาษีส่งออกด้วยการขอยกเว้นภาษีน้ำมันที่ จ.พิษณุโลก เมื่อปี 2556 ซึ่งได้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดบางส่วนไปก่อนหน้าแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 กันยายน พล.ต.ต.กมล เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า วันนี้มีการปฎิบัติการลงพื้นที่ 6 จุด ทั่วประเทศประกอบด้วย จังหวัดตาก ซึ่งหัวหน้าชุดคือ พ.ต.อ.จักร เพ็งสาธร รองผบก.ปปป. ได้นำกำลังตำรวจและทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักส่วนตัว ผู้ต้องหา 3 คน ในพื้นที่อ.แม่สอด โดยเจ้าหน้าที่ พบตัวทั้ง 3 คน จึงแสดงหมายก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพัก แต่ไม่พบหลักฐานที่เป็นของกลาง เนื่องจากเวลาเกิดเหตุนานมาแล้วตั้งแต่ปี 2556 จึงได้ทำการยึดเอกสารแสดงทรัพย์สิน อาทิ โฉนดที่ดิน มาตรวจถึงที่มาที่ไปการของได้มาของทรัพย์สินนั้นๆ

พล.ต.ต.กมล เปิดเผยต่อว่า นอกจากนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อความผิดมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 162 เจ้าพนักงานรับรองเป็นหลักฐานว่าได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน7 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 - 400,000 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำและลงบันทึกประวันไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.กมล เปิดเผยอีกว่า ในส่วนที่ไปตรวจค้นอีก 3 จุดที่เหลือคือ กรุงเทพมหานคร 2 จุด จังหวัดนครปฐม 1 จุดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ทั้ง 3 คน แต่ไม่พบตัว จึงได้เข้ายึดเอกสารเกี่ยวกับเงินและทรัพย์สินบางส่วนมาตรวจสอบ เนื่องจากเป็นความผิดตามมูลฐานคดีฟอกเงิน หลังจากนี้ บก.ปปป.จะไม่ออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ไม่พบตัว แต่จะสรุปสำนวน และรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการชี้มูลความผิดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ในวันที่ 5 ต.ค.นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ขอหมายค้น 6 จุดต่อศาลทุจริตกลาง เมื่อวันที่ 27 ก.ย.61 กระทั่งวันที่ 29 ก.ย.นี้ ตำรวจ บก.ปปป.บูรณา จนท.หลายหน่วยค้น 6 จุด แบ่งเป็น ที่อ.แม่สอด 3 จุด เป็นบ้านพักและสถานที่ทำงานของ 1.นายชัยวัฒน์ ปราโมทย์สูง จนท.สังกัดกรมสรรพสามิต ประจำด่านแม่สอด 2.นายปรีชา บุญมี จนท.สังกัดกรมสรรพสามิต ประจำด่านแม่สอด 3.นายเฉลิมศักดิ์ ภิรมย์ทอง จนท.สังกัดกรมสรรพสามิต ประจำด่านแม่สอด (เบื้องต้นพบทั้ง 3 คน และแจ้งข้อกล่าวหา และอายัดเอกสารบางส่วนมาตรวจสอบ) ส่วนที่กรุงเทพฯ เข้าค้น 2 จุด เป็นบ้านพัก 1.นายธีรพันธ์ ภู่บัวเผื่อน

จนท.กรมศุลกากรชำนาญการประจำด่านแม่สอด 2.นายนาวิน ดวงศรี จนท.นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ประจำด่านแม่สอด และที่จ.นครปฐม 1 จุด เป็นบ้านพักของ นายองอาจ ยศศักดิ์ศรี อดีตนักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ประจำด่านแม่สอด (ไม่พบตัวทั้ง 3 คน)