เปิดตัว 'พปชร.' นักการเมือง-นักธุรกิจ-นายกฯอบจ.แห่ร่วมคึกคัก
ใครเป็นใครในการเปิดตัว "พรรคพลังประชารัฐ" เผยชื่อนักการเมือง-นักธุรกิจ-นายกฯอบจ. แห่ร่วมคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่เพื่อจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานีวันนี้ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนั้น มีรัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่งต่างๆ ในพรรค พร้อมเปิดตัว ในวันนี้ (29 ก.ย.61) เดินทางมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ที่เป็นหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการบริหารพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการบริหารพรรค
ส่วนอดีตส.ส.เเละนักการเมืองที่มาร่วมงานวันนี้นั้น อาทิ นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีตรมช.ศึกษาธิการ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คือนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตส.ส.กทม.และในฐานะรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.กทม.นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตส.ส.กทม.และในฐานะรองผู้ว่าฯ กทม.นายทศพล เพ็งส้ม อดีตส.ส.นนทบุรี ที่มาพร้อมกับนางภัทรมน เพ็งส้ม รองนายกเทศมนตรีพิมลราช จ.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตมีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์
แกนนำกลุ่มสามมิตรคือ นายอนุชา นาคาศัย อดีตส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานฝ่ายบริหารสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ เเอนด์ คันทรีคลับ หลานชายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รวมถึงนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีตส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปเปิดตัวกับกลุ่มสามมิตร
อดีตข้าราชการคือ นายวิเชียร เชาวลิต อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้ก่อตั้งพรรค
รวมทั้งตัวเเทนนักวิชาการเเละเเกนนำเอสเอ็มอี เช่น ณพพงศ์ ธีระวรประธานกรรมการบริหารสมาพันธ์ SME ไทย ที่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 12 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานคะแนนเสียงเดิมพรรคเพื่อไทย อาทิ อุบลราชธานี มหาสารคาม สกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย บึงกาฬ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ หนองบัวลำภูและอำนาจเจริญ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมเริ่มขึ้นเวลา 14.00 น. โดยมีการฉาย VTR ชุดสานพลังสู่พลังประชารัฐ มีสาระสำคัญว่า ท่ามกลางความขัดแย้งของตนในประเทศส่งผลให้เกิดความสามัคคี ขณะเดียวกันประเทศชาติต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจสังคมการเมืองและเทคโนโลยีที่พลิกโฉมโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อเปลี่ยนไปไทยต้องปรับตัวขณะที่ทุกคนต้องก้าวข้ามความขัดแย้งและเดินหน้าให้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องเน้นการแก้จุดอ่อนและนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อเข้ามายกระดับและให้พัฒนาประเทศให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจในอนาคตขณะเดียวกันในด้านการศึกษาต้องมีการปฏิรูปเพื่อรองรับการเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นในพร้อมๆกัน
การก่อตั้งพรรคประชารัฐต้องการให้ไทยก้าวข้ามการติดหล่มปัญหาต่างๆโดยจะเป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมบุคคลากรจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ประชาสังคม เพื่อเข้ามาอาสาเป็นตัวแทนประชาชนในการบริหารประเทศโดยยึดหลักประชาธิปไตย ปฏิบัติงานด้วยธรรมาธิบาลเน้นประโยชน์ต่อประเทศเป็นสำคัญ โดยมีหลักการถูกต้องและโปร่งใส