จีนเผยหนี้ต่างประเทศไตรมาส2เพิ่มต่อเนื่อง

จีนเผยหนี้ต่างประเทศไตรมาส2เพิ่มต่อเนื่อง

สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (เซฟ) เปิดเผยว่า หนี้ต่างประเทศของจีนในไตรมาส 2 ปีนี้ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยโครงสร้างที่ดีขึ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หนี้ต่างประเทศช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 1.87 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.5% จากระดับสิ้นเดือนมี.ค. โดยสาเหตุของการขยายตัวดังกล่าวนั้น ส่วนใหญ่มาจากการถือครองพันธบัตรสกุลเงินหยวนภายในประเทศของสถาบันในต่างประเทศ

ทั้งนี้ โครงสร้างหนี้ต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ความต้องการพันธบัตรสกุลเงินหยวนภายในประเทศจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจีนได้เปิดตลาดพันธบัตรภายในประเทศมากขึ้น

ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ในจีนที่ขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 258% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ในปี 2559  ในจำนวนนี้เป็นหนี้ภาคธุรกิจกว่า 156% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นถึง 56% ภายในระยะเวลา 8 ปี  นับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100% ของจีดีพี 

นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ประเทศของจีนยังสูงถึง 20% ถือว่ามากเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับประเทศที่เคยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจมาก่อนอย่าง สหรัฐ ญี่ปุ่นและสเปนที่อยู่ในช่วง 14%-15% สะท้อนถึงภาวะหนี้สินของธุรกิจจีนที่อยู่ในระดับสูง