'บิ๊กจิ๋ว' เสนอตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล โดยไม่มีคสช.

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ นายเผด็จ ภูรีปฏิภาณ คอลัมนิสต์เจ้าของนามปากกา "พญาไม้" ร่วมกันแถลง “ทางออกประเทศไทย” ที่บ้านพักย่านรามอินทรา ของพล.อ.ชวลิต

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรมายาวนานกว่า 780 ปี นับตั้งแต่สมัยสุโขทัย ด้วยลักษณะพิเศษของคนไทยที่รักความมีอิสรภาพ เป็นไท จากชัยภูมิที่ดีที่สุด จึงพร้อมด้วยทรัพยากรธรรมขาติ และมนุษย์อย่างพร้อมเพรียง แต่น่าเจ็บปวดที่วันนี้สิ่งที่เรามีอยู่ไม่สามารถช่วยสถานการณ์ปัจจุบันได้ คนยากจนยังต้องยากเข็ญ ทั้งๆ ที่สภาพแวดล้อมควรส่งเสริมให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เกิดจากการที่เราทุกคนไม่ยึดตามแนวทางที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงปฏิบัติไว้มาช้านาน จึงเป็นปัจจัยทำให้ประเทศถดถอย เกิดความยากจน ที่พูดเช่นนี้ ไม่ได้ต้องการให้ทะเลาะกัน ขับไล่ หรือประณามใคร แต่อยากให้คนไทยร่วมกัน อย่าหวั่นไหวในการแก้ปัญหาบ้านเมือง

สิ่งที่จะแก้ไขได้คือ การมอบสิทธิ เสรีภาพไปให้แก่ประชาชนให้ได้เรียนรู้ ถึงความเป็นประชาธิปไตย อธิปไตยที่เป็นการปกครองผ่ารระบบรัฐสภา ที่มาจากการเลือกตั้ง บนหลักนิติธรรม แม้ทางออก ที่มุ่งหวังให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า เพราะหากไม่มีกระบวนการประชาธิปไตยที่มีความสำคัญนี้แล้ว ต่อให้มีคนดีปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข แต่เชื่อว่าการเปบี่ยนแปลงก็ต้องเกิดขึ้น จากกระบวนการต่างๆ ที่ว่านี้ คงจะได้เห็นในเร็ววันนี้จากการเลือกตั้ง จะต้องเกิดขึ้น

"แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจมองดูว่ายาก เพราะแม้การเมืองในอดีต การจัดตั้งรัฐบาลที่จากไม่กี่พรรคการเมืองยังเกิดขึ้นยากแล้ว ปัจจุบันที่มีมากกว่า 20 พรรค จะไม่ตีกันตายกันหรืออย่างไร คิดว่าการที่จะปล่อยให้มีการเลือกตั้งเช่นนี้ อย่าให้มีเลย และแทนที่จะให้มันเป็นไปแบบเดิม เพียงแต่เปลี่ยนกรอบอำนาจจาก “การปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” มาเป็น “ … ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ” สร้างเป็นระบอบปกครองพิเศษ ที่ใช้อำนาจพิเศษ ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ปี 2560 แล้วนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาแก้ไขบางมาตราที่สำคัญ ยกเลิก คสช. วันนี้ต้องเซ็ตซีโร่เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แล้วเชื่อว่า ภายใน 1-2 ปีก็จะเกิดผล" พล.อ.ชวลิต กล่าว

ช่วงหนึ่งของการแถลง พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่าเป็นชายชาติทหารเหมือนกัน ดังนั้นหวังว่าจะเข้าใจและรับฟังเพื่อประโยชน์ของประเทศ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวต่อว่า หากต้องเดินตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 วิกฤติจะรออยู่ข้างหน้า แม้รัฐธรรมนูญปี 60 จะผ่านการประชามติก็ตาม แต่ต้องเข้าใจว่ามีส่วนหนึ่งไม่สบายใจกับการออกแบบที่มีปัญหา และเมื่อรัฐธรรมนูญออกแบบให้ผู้กำกับกติกา สามารถลาออกมาเป็นผู้เล่นได้ โดยให้เข้าสังกัดพรรคที่มีอยู่มากมายกว่า 119 พรรคการเมืองให้เกิดความชัดเจน

"ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดู พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นตัวอย่าง ที่ในอดีตเมื่อท่านตัดสินใจจะลงเล่นการเมือง ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ก่อนจะครบวาระ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้ ที่นายกฯประกาศสนใจงานทางการเมือง และคณะรัฐมนตรีก็สนใจการเมืองเช่นกัน แม้ พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพจะออกแบบว่า ให้อยู่ในหน้าที่ได้โดยไม่ต้องรับสมัครรับการเลือกตั้ง แต่ถือว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช. และม.44 ถือเป็นอำนาจสูงสุดที่สามารถคุมอำนาจ หรือปลด กกต.ได้ ซึ่งกกต.ถือเป็นกรรมการที่จะทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกตั้ง กกต.คือผู้มีอำนาจสูงสุด ซึ่งเชื่อว่า กกต.ไม่อาจจะขัดอำนาจของ คสช.ได้" ประธาน นปช.กล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ดังนั้นต้องการให้เห็นว่า ภายใต้กติกาปัจจุบัน ไม่สามารถเดินหน้าประเทศไปข้างหน้าได้ พร้อมฝาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่สนใจเพียงแต่การเมือง แล้วจะจบ แต่ต้องสนใจประเทศไทย ประชาธิปไตย ประชาชนด้วยว่าสถานการณ์ในวันข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะการใช้อำนาจตาม ม.44 ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งการออกแบบประชาธิปไตยเช่นนี้ ไม่ต่างกับการถอดแบบแก้มาจากประเทศเมียนมาร์ เห็นว่าเมื่อคณะกรรมการอยากเป็นผู้เล่น แต่กลับส่งสัญญาณเข้าข้างผู้เล่นอย่างชัดเจน ประเทศเดินต่อไปไม่ได้

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เพื่อให้คนกลางได้เข้ามาทำหน้าที่ จึงจะสามารถลงเป็นผู้แข่งขันได้ เช่นเดียวกับผู้อื่นเพื่อความเสมอภาค พร้อมมองว่าที่ผ่านมา 5 ปี เศรษฐกิจอยู่ในขั้นวิกฤต ประชาชนอดทนเพื่อแลกกับคำว่าความสงบ ถือว่าประชาชนให้โอกาสมามากแล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่ออีก 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติก็ไม่เป็นไร แต่ต้องอยู่ภายใต้การแข่งขันอย่างเสมอภาค ไม่ขัดข้องหากใครจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้มีความสง่างามและมีน้ำใจนักกีฬา และเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวด้วยว่า ตนได้เตรียมการเสนอโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่จะประกอบด้วยงาน 7 หมวด 141 โครงการ งบประมาณ 197 ล้านล้านบาท ครอบคลุมงานเศรษฐกิจ สุขภาพ เทคโนโลยี ความมั่นคง ซึ่งมีแหล่งเงินทุนที่ชัดเจน