นายกฯ ขอบคุณทูตสหรัฐฯทำงานอยู่ไทย 3 ปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กันยายน 2561 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณเอกอัครราชทูตที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดียิ่ง ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี โดยได้ปฏิบัติหน้าที่ในการสร้างพลวัตรในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในหลากหลายมิติเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา และพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีส่วนอย่างสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดมากขึ้น สหรัฐอเมริกายังมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ ในปฏิบัติการค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า จำนวน 13 คน ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย จนประสบความสำเร็จซึ่งเอกอัครราชทูตก็ได้ร่วมงานเลี้ยง “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” (United as One) ที่รัฐบาลไทยได้จัดขึ้นเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ปฏิบัติทุกฝ่ายที่ร่วมในภารกิจดังกล่าว ณ พระลานพระราชวังดุสิต ด้วยตนเอง

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศนั้น มีความก้าวหน้าส่งผลให้มูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นและเป็นอันดับ 3 ของการลงทุนต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีโอกาสทางเศรษฐกิจอีกมาก โดยเฉพาะการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรัฐบาลตั้งใจให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่ครบวงจรและมีศักยภาพที่สุดในภูมิภาค โดยเมื่อประกอบกับนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ นโยบาย Thailand 4.0 และนโยบาย Thailand+1 ที่จะช่วยต่อยอดการลงทุนไปในประเทศเพื่อนบ้านของไทยจะทำให้การลงทุนของเอกชนสหรัฐฯ เป็นประโยชน์อย่างมาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและสหรัฐ ฯ ปัจจุบัน ในการเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการดำเนินงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทยต่อฝ่ายสหรัฐฯ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งว่าการที่ไทยถูกเลื่อนลำดับการจัดอันดับในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (TIP Report) เป็น Tier 2 เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา โดยกำหนดให้การค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติของไทย ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานผิดกฎหมาย รวมทั้งปัญหาด้านการประมงอย่างผิดกฎหมายต่อไป ซึ่งในปี 2562 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ทั้งนี้ ยินดีที่จะรับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวประทับใจ และชื่นชม ความสัมพันธ์ที่สวยงามระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี โดยไทยคือ มิตรทางการทูตของสหรัฐฯ เป็นชาติแรกในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินสหรัฐฯ เมื่อปี 2503 ทรงมีพระราชดำรัสแก่สภาคองเกรส ตระหนักถึง ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชน ว่าจะช่วยดำรงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นพระราชดำรัสที่สร้างความประทับใจและเป็นข้อเท็จจริง

ปัจจุบัน ประชาชนไทยและสหรัฐอเมริกาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวสหรัฐฯ ที่อาศัยในไทย หรือนักเรียนไทยหรือคนไทยที่อาศัยที่สหรัฐฯ ต่างมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมทั้งความสำเร็จจากโครงการนิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพ (Great and Good Friends Exhibition) นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเปิดงานนิทรรศการ ทั้งนี้ในตอนท้ายของการสนทนา เอกอัครราชทูตยังแสดงความเชื่อมั่นในการจัดการเลือกตั้งของไทย เชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ ในโลกได้ พร้อมอวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่สิ่งดี ๆ และขอบคุณความทรงจำที่สวยงามทั้งหมดในการดำรงตำแหน่งในประเทศไทย คนไทยมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรักที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่อชาติ และสูงสุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นพลังในการนำประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดีต่อไป