'ทวิช' ยื่นซ้ำใช้สิทธิม.100 เรียกประชุมผู้ถือหุ้นไอเฟค

'ทวิช' ยื่นซ้ำใช้สิทธิม.100 เรียกประชุมผู้ถือหุ้นไอเฟค

รายย่อยจับมือ "ทวิช" ส่ง 7 อรหันต์ ชิงตำแหน่งบอร์ดไอเฟค พร้อมยื่นมาตรา 100 รอบใหม่ หวังเดินหน้าปฏิบัติการฟื้นคืนชีพไอเฟค

 นายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึงบริษัทและสำเนาให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทราบ เรื่อง การขอใช้สิทธิเรียกประชุม ผู้ถือหุ้นตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริษัทมหาชนจำกัด และ ขอเรียกร้องให้กรรมการจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อคืนอำนาจให้กับผู้ถือหุ้นในการเลือกกรรมการชุดใหม่ เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทตามกรอบกฎหมายกำหนด ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อต่อไปจะสร้างความเสียหายให้กับไอเฟคอย่างร้ายแรง กระทบเจ้าหนี้หุ้นกู้ ตั๋วบี/อี สถาบันการเงิน และคู่ค้า

นอกจากนี้ ยังได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการ 7 ท่าน ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อเสนอตัวเข้าไปแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูกิจการของไอเฟค ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยแต่ละท่านล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริหารมืออาชีพ ประกอบด้วย 1.นายทวิช เตชะนาวากุล 2. พลเอกสำเภา ชูศรี 3. รองศาสตราจารย์ประนอม โฆวินวิพัฒน์ 4. นายพิชิต สินพัฒนสกุล 5. นายหาญ เชี่ยวชาญ 6. นายกุดั่น สุขุมานนท์ และ 7.นายบุญเลิศ เอี้ยวพรชัย

นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้ถือหุ้นกู้ ไอเฟค กล่าวว่า ผิดหวังกับการทำงานของพล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ และนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการไอเฟคที่เหลืออยู่ทั้ง 2 คน ที่ยังล่าช้าในการคืนอำนาจผู้ถือหุ้น ผ่านการเร่งจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา 83

ถึงแม้ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กันยายน กรรมการทั้ง 2 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ รวมหลายสิบคนได้ขึ้นไปที่สำนักงานใหญ่ของไอเฟค ที่อาคารเดอะไนน์ พระราม 9 พบว่าไม่มีพนักงานปฏิบัติหน้าที่อยู่เลยและไม่มีเอกสารทางการเงินและทางบัญชีเก็บรักษาไว้แม้แต่ฉบับเดียว เป็นการกระทำที่ท้าทายต่อทั้ง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงกรมสรรพากร ที่มีการย้ายสำนักงานและเอกสารทั้งหมดของบริษัทมหาชนไปจากที่ทำการที่จดทะเบียนไว้

ส่วนการที่บอร์ดทั้ง 2 ท่านเสนอรายชื่อกรรมการทั้ง 74 ท่าน ที่เสนอตัวเข้ามาบริหาร จากการเสนอรายชื่อจากผู้ถือหุ้นหลายกลุ่ม ไปให้ ก.ล.ต. พิจารณาข้อมูลเบื้องต้น ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าดูตาม Time Line แล้ว หากจะคืนอำนาจผู้ถือหุ้น และเร่งจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่โดยเร็ว ก็ควรที่จะเร่งปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นได้แล้ว เพื่อที่จะได้พิมพ์หนังสือเชิญประชุม เรียกประชุมผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กรรมการทั้ง 2 ท่าน ต้องเร่งดำเนินการกำหนดวัน Record date และจัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาไอเฟค ก่อนวันนัดพิจารณาไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้และรายย่อยได้มีการทำหนังสือร้องเรียนและคัดค้านการยื่นเข้าแผนฟื้นฟูฯไปในช่วงก่อนหน้าแล้ว เพราะว่าพบความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเจ้าหนี้ มีความเชื่อมโยงกับอดีตผู้บริหารไอเฟคที่ถูกสำนักงานก.ล.ต.กล่าวโทษและดำเนินคดีอาญา อีกทั้งเจ้าหนี้ยังเสนอให้นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารไอเฟค ซึ่งถูกก.ล.ต.กล่าวโทษและดำเนินคดีอาญา เช่นเดียวกัน ให้เข้ามานั่งในตำแหน่งผู้บริหารแผน