ธปท.เปิดทำธุรกิจ'กู้ยืมเงิน'ระหว่างบุคคลออนไลน์

ธปท.เปิดทำธุรกิจ'กู้ยืมเงิน'ระหว่างบุคคลออนไลน์

ธปท.เตรียมออกประกาศ หลักเกณฑ์ทำธุรกิจกู้ยืมเงินระหว่างบุคคล หรือ"พีทูพีเลนดิ้ง"ปีนี้ คิดดอกเบี้ยไม่เกิน15%ต่อปี กำหนดวงเงินคนให้กู้ไม่เกิน5แสนบาทต่อปี ส่วนคนกู้กำหนดไม่เกิน 50ล้านบาทต่อราย

นางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพระบบการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ธปท. เตรียมออกประกาศ หลักเกณฑ์การทำธุรกิจP2P lending platform ซึ่งเป็นการกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กทั้ง SME และ Start Up เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น เบื้องต้นจะเปิดให้เข้าทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ก่อน

น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า คาดว่าประกาศดังกล่าวจะออกได้ภายในปีนี้ โดยเป็นการกำกับแพลตฟอร์มที่จะให้บริการ P2P lending จะต้องมาขออนุญาต โดยธปท.เป็นผู้พิจารณาคุณสมบัติ แล้วให้เข้าทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ ก่อนจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ใบอนุญาต เพื่อให้บริการในวงกว้าง

เบื้องต้นกำหนดวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน50ล้านบาท และต้องเป็นการกู้ เพื่อทำธุรกิจเท่านั้น และกำหนดวงเงินสำหรับผู้ปล่อยกู้ หรือลงทุนไม่เกิน5แสนบาทต่อปี แต่หากเป็นกลุ่มไฮเน็ทเวิร์ธ ไม่จำกัดวงเงิน สำหรับอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม แล้วแต่ตกลง แค่รวมกันแล้วไม่เกิน 15%

ทั้งนี้เพื่อป้องกันแพลตฟอร์มนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือการทุจริต แพลตฟอร์มจะไม่ได้แตะต้องตัวเงิน เงินที่ได้จากผู้ให้กู้ จะต้องถูกนำไปเก็บไว้ที่ตัวกลาง ซึ่งจะเป็นธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ก็ได้

นอกจากนี้ธปท. เตรียมจะขยายวงเงินการโอนเงินผ่านเลขที่บัญชีธนาคาร จากเดิมกำหนดวงเงินการโอนต่อครั้งได้ไม่เกิน 50,000 บาท เพิ่มเป็นไม่เกิน 7 แสนบาท เพื่ออำนวยความสะดวก ในการทำธุรกรรม และ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม แต่ละธนาคารอาจจะกำหนด วงเงินการโอนสูงสุดได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้การเพิ่มวงเงินดังกล่าว คาดว่าจะมีส่วนช่วยลดปริมาณธุรกรรมที่หนาแน่น ในช่วงสิ้นเดือนได้