‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดรอดูผลประชุมเฟดในคืนนี้ คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย0.25% ขณะที่เงินบาทยังเคลื่อนไหวกรอบกว้างตามภูมิภาค

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.40บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดตลาดสิ้นวันก่อนที่ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์เงินดอลลาร์ ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินมีความเคลื่อนไหวไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐก่อน

จุดที่น่าสนใจยังคงเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ล่าสุดน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 82 เหรียญต่อบาร์เรลสูงที่สุดในรอบสี่ปี หลังโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงตามกดดันให้ประเทศในองค์การการค้าโลก (WTO) เลิกทำธุรกิจกับอิหร่าน ขณะที่นักวิเคราะห์ก็เริ่มมองว่า ปีนี้อาจจะเป็นปีที่อากาศหนาวเย็นมากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลบวกกับปริมาณความต้องการของน้ำมันอาจส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อไปถึงระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรลก็เป็นได้

ผลกระทบที่เร็วที่สุดคือ ยิลด์ทั่วโลกจะมีทิศทางเป็นขาขึ้น รับกับภาพรวมราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดที่จะตามมา ล่าสุดยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีขยับขึ้นแตะระดับ 3.10% ขณะที่ยิลด์เยอรมันอยู่ที่ระดับ 0.54%

ในส่วนของเงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบกว้างตามสกุลเงินเอเชีย มองว่าระยะสั้นภาพการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่ในระยะยาวราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลให้การเกินดุลการค้าค่อยๆ ลดลงและไม่ถือว่าเป็นปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท กรอบค่าเงินบาทวันนี้ 32.34 - 32.44 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับมุมมองของนโยบายการเงินสหรัฐ เชื่อว่าเฟดจะมีการปรับ “ขึ้น” ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ไปที่ระดับ 2.00-2.25% ในคืนนี้ ขณะที่ฝั่งเศรษฐกิจ เฟดจะมีการปรับคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีในปี 2018 ให้ดีขึ้นและอาจมองการว่างงานจะปรับตัวลงได้อีก ด้วยภาพการเติบโตที่ร้อนแรงของสหรัฐดังกล่าว จะส่งผลให้เฟดคงต้อง “ขึ้นดอกเบี้ยต่อในเดือนธันวาคม” 0.25% และอย่างน้อยอีก 0.50% ภายในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐสูงขึ้นถึงระดับ 3.00% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562