นายกฯ ลั่นรมต.จ่อร่วมงาน 'พลังประชารัฐ' ไม่ผิดกม.

นายกฯ ลั่นรมต.จ่อร่วมงาน 'พลังประชารัฐ' ไม่ผิดกม.

นายกฯ ย้ำครม.สัญจร ไม่เคยแจกเงิน ถาม "รบ.เลือกตั้ง" แก้ปัญหาอย่าง รบ.นี้หรือไม่ ลั่นรมต.ร่วม "พลังประชารัฐ" ไม่ผิดกม.ทำได้

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.61 เวลา 14.25 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสบแห่งชาติ (คสช.)ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นักการเมืองมองว่า การไม่ปลดล็อกการเมือง รวมถึงการที่ครม.ลงพื้นที่และการประชุมครม.สัญจร เป็นการหาเสียงล่วงหน้าว่า เรื่องครม.สัญจรตนพูดไปหลายครั้งแล้วครม.สัญจรตนเอาเงินไปแจกเขาหรือเปล่า ตนก็ไม่ได้แจกเขานะ ถามสิ ตนทำทั้งประเทศหรือเปล่า ตนทำทุกกลุ่มจังหวัดและทุกจังหวัดไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ตนไปจังหวัดนี้เพื่อเอาเงินไปให้ ไม่ใช่เลยเป็นเรื่องการทำงานตามแผน ตามโครงการที่มีอยู่แล้ว และไปฟังข้างล่างมาเพื่อปรับแก้ให้ตรงกัน ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ จัดทำโครงการเพิ่มเติม รวมถึงโครงการเดิมที่ทำอยู่แล้ว ก็ไปสร้างการรับรู้ว่ามีอยู่แล้ว ไม่ต้องขอ แต่อาจจะทำปีไหน ก็ต้องให้เขารู้ ไม่เช่นนั้นที่ผ่านมา จะเป็นแต่เพียงว่า อันนี้ได้ แต่ไม่อธิบายสิ่งที่ไม่ได้คืออะไร ต่อไปจะได้หรือไม่ นั่นคือยุทธศาสตร์ชาติ จึงจะเกิดโครงการขนาดใหญ่ขึ้น โดยต้องแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นนธรรม ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ต้องทำทั้งภาคประชาชน เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยและการสร้างเศรษฐกิจใหม่ข้างบน เพื่อเอาภาษีต่างๆ มาดูแลสังคมผู้สูงวัยการรักษาพยาบาล การศึกษา ทุกคนมีความต้องการทั้งสิ้น ถ้าไม่ทำประเทศไทยจะติดกับดักอยู่ที่เดิม

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนข้อกังวลหนี้สาธารณะ วันนี้ได้รับข้อสรุปตัวเลขอยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์โดยประมาณ เป็นการประเมินไปถึงปี 2571 อย่างน้อย มีตัวเลขให้รัฐบาลต่อไป เพื่อให้เขาสามารถกู้ได้ เพราะตามกรอบวินัยการเงินการคลังกำหนดไว้ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้อยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อถึงปี 2571ก็ยังไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกิน พ.ร.บ.การเงินการคลัง กำหนดไว้ว่ากู้ไม่ได้ ดังนั้น ต้องทบทวนว่า ก่อนปี 2558 ที่มีการจัดทำงบประมาณมา แม้จะมีการกู้บ้าง มันก็จำเป็น เพราะเป็นงบการลงทุน ถ้าใช้งบประมาณปกติ เงินที่จะไปดูแลส่วนอื่นจะหายหมด จึงมีการกู้ให้เกิดการลงทุน และต้องดูด้วยว่า ก่อนตนเข้ามาหนี้สาธารณะตัวเลขอยู่ที่เท่าไหร่ แต่วันข้างหน้ายังไงก็ขาดดุล เพราะมีการลงทุนมาก เนื่องจากหยุดมาหลายปีโครงการขนาดใหญ่เดินไม่ได้เมื่อถามว่า สบายใจขึ้นหรือไม่ หลังประกาศจุดยืนว่าสนใจงานการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนสบายใจมาตลอด ทำไมคุณต้องมาสนใจมากมายนักคุณรักเป็นห่วงตนใช่หรือไม่ ตนต้องสบายใจ เพราะอยู่ด้วยแรงศรัทธาในการทำงานของตัวเอง คณะทำงาน และรัฐบาล ตนต้องศรัทธาเขาทุกคนถ้าเราไม่สร้างความศรัทธาความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน อะไรก็ไม่เกิดก็ทะเลาะเบาะแวง ขัดแย้งไปทั้งหมด

“ผมไม่ได้ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน ผมเพียงแต่กำหนดนโยบายลงไป และทำให้สอดคล้องกับนโยบาย ทั้งนี้ ต้องระมัดระวังเรื่องการทุจริต วันนี้คุณต้องหาอะไรดีๆ ให้เจอว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง วันนี้ภาคธุรกิจเอกชนสหรัฐฯ ก็มาขอพบ อาทิตย์ที่แล้วอียูก็มาพบ ก่อนหน้านั้นก็มีหลายประเทศมาพบ มากันมากมาย การลงทุนต่างๆ ก็มี แสดงว่าเขาไว้วางใจเราหรือเปล่า” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนเคยได้รับคำถามแบบที่สื่อถามว่าจะเล่นการเมืองหรือไม่ จะเป็นการเมืองต่อไปหรือเปล่า ลงเลือกตั้งหรือเปล่า ซึ่งเป็นคำถามที่มาจากบรรดาผู้นำประเทศรอบบ้าน แต่ตนก็ไม่ได้ตอบเขา บอกไปว่าเป็นเรื่องของสถานการณ์ภายในประเทศของเรา ซึ่งแต่ละประเทศมีวิธีการบริหารของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภายใต้หลักการประชาธิปไตย โอเคนะ อย่าไปเขียนให้เสียหาย

เมื่อถามว่า ลุ้นพรรคพลังประชารัฐที่จะเปิดตัวในวันที่ 29 ก.ย.นี้ หรือไม่ เนื่องจากมีรัฐมนตรีในรัฐบาลไปร่วมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ตอบ ก็เป็นเรื่องของพลังประชารัฐ แต่คนในรัฐบาลเขาไปช่วยก็ไปช่วย แต่ไม่ได้ทำให้ระบบอะไรมันเสียหาย ไม่ผิดกฎหมายเขาทำได้หมด ทุกรัฐบาลเขาทำมาแบบนี้หรือเปล่า รัฐบาลก่อนๆมีไหม ถ้ามีก็จบจะมาถามอะไรตน

เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพิเศษ อาจถูกมองเรื่องความเหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ใครจะฟ้อง คุณจะฟ้องผมเหรอ คุณทำไมไม่มองว่ารัฐบาลนี้เข้ามา แม้ไม่ปกติ แต่ก็เข้ามาบริหารราชการจนได้รับการยอมรับจากต่างประเทศทั่วโลก ทำไมไม่มองตรงนี้ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำได้อย่างที่ผมทำไหม แก้ปัญหาต่างๆ ให้เขาไหม ปลดล็อกอุปสรรคต่างๆ ได้ไหม สร้างคอนเน็กทิวิตี้ทางกายภาพอย่างไร้รอยต่อ ที่มีอนาคตชัดเจน มีการบริหารจัดการน้ำ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดิน แก้ปัญหาผู้บุกรุก แก้ปัญหาทุจริตได้ชัดเจน การเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำได้อย่างผมทำหรือไม่ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ มีใครทำบ้าง จัดระเบียบจราจรในกทม. ซึ่งเราก็ต้องดูแลผู้ได้รับการจัดระเบียบด้วยนี่คือสิ่งที่รัฐบาลคิด เพียงต้องเปิดพื้นที่ให้โปร่งใสชัดเจน เอาคนที่แสวงประโยชน์ทางรายได้ ไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน ผมไม่ได้ทำเพื่อเอาใจใคร แต่ทำเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส นั่นคือความเท่าเทียมด้วยกฎหมาย แต่ถ้าไม่มีกฎหมายไม่มีพื้นฐานก็ทำไม่ได้”

เมื่อถามว่า ล่าสุดมีพรรคการเมืองใดทาบทามขอเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีเลย เขาจะทาบหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เมื่อทาบมาตนจะรับหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ขอดูก่อนเมื่อถามว่า ดูก่อนแสดงว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่รู้เหมือนกัน"