จับ3ผู้ต้องหาฆ่า 'ผัวอังกฤษ-เมียไทย' เผยพี่ชายสั่ง-ขัดแย้งส่วนตัว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีชายสัญชาติอังกฤษ และภรรยาชาวไทย ได้สูญหายไป ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2561 ในพื้นที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ จว.แพร่ ว่าล่าสุด เวลาประมาณ 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันบูรณาการกับเจ้าหน้าทุกภาคส่วน ทำการออกค้นหาและสามารถค้นพบศพของ MR.ALAN SCOTT HOGG (นายอลัน ฮ๊อก) อายุ 64 ปี สัญชาติอังกฤษ และ น.ส.หน็อต สุดแดน อายุ 60 ปี ประชาชน ต.ช่อแฮ อ.แม่ฮ่องสอน จว.แพร่ บริเวณภายในบ้านสวน หมู่ที่ 6 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จว.แพร่

จากนั้นได้ร่วมกันทำการชันสูตรพลิกศพ ร่วมกับ แพทย์ จาก รพ.แพร่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทำการถ่ายภาพ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป เพื่อหาสาเหตุการตายตามกฎหมาย อีกทั้งได้ทำการสอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดแพร่ และศาลได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย คือ 1.นายวารุต หรือหนัด รัตนสัจจะกิจ อายุ 63 ปี พี่ชายของผู้ตาย ในข้อหาเป็นผู้ใช้จ้างวาน ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.นายเบี้ย คำใส อายุ 40 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 3.นายกิตติพงศ์ คำหวัน อายุ 27 ปี ในช้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอายุความ 20 ปี

โดยในเบื้องต้น มีข้อสันนิษฐานในการก่อเหตุฆาตกรรมดังกล่าว คาดว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัวจากการทะเลาะกันของนายวารุตหรือหนัดฯ กับนายอลันฯผู้ตาย ซึ่งนายวารุตฯนั้นเป็นพี่ชายของ น.ส.หน็อตฯ ภรรยาของนายอลันฯ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเบี้ยฯ และ นายกิตติพงศ์ฯ ได้แล้ว ส่วนนายมารุตหรือหนัดฯ ที่หลบหนีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังออกติดตามจับกุมตัวมาเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งได้รายงานเหตุการเสียชีวิตของนายอลันฯ ไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้ามาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามค้นหาจนค้นพบศพของผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ และผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุของ จนท.พิสูจน์หลักฐาน ในส่วนของผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุนั้นขณะนี้สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 3 ราย

“ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านกล่าวชื่นชมพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ช่วยกันระดมเร่งติดตามค้นหาศพของผู้สูญหายจนพบ และสามารถจับกลุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม” รองโฆษก ตร. กล่าว