SPALI - ซื้อ

SPALI - ซื้อ

ชอบในความลงตัว ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SPALI ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่เราชอบมากที่สุดด้วยราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 27.50 บาท PER เป้าหมายที่ 9.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2549-60 อยู่ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เราชอบ SPALI เนื่องจากบริษัทมีความลงตัวของธุรกิจที่มีความชัดเจนของรายได้ในระยะยาว (ความชัดเจนของรายได้จากการขายอสังหาฯ ในระยะยาวสูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อขาย) การกระจายตัวของรายได้ (จากแนวราบและคอนโด) และเป็นบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จากากรฟื้นตัวของอุปสงค์ในต่างจังหวัดเร็วที่สุดในกลุ่ม ทั้งนี้เรามองว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้าหมายของแผนธุรกิจ ปี 2561 ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโครงการใหม่เชิงรุกดังแผนเดิมตอนต้นปี สำหรับมูลค่าหุ้นยังนับว่าถูกด้วยซื้อขายที่ PER ปี 2561 เท่ากับ 9.1 เท่าและ PER ปี 2562 ที่ 8.3 เท่า

ปรับเพิ่มกำไรหลักปี 2562

เราปรับเพิ่มการประมาณการกำไรหลักสำหรับปี 2562 ขึ้น 5% เพื่อสะท้อนมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อรายได้จากโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยและอัตรากำไรขั้นต้นซึ่งจะทำให้กำไรเติบได้ที่ 10% ในปี 2562 ปัจจุบันเราคาดว่ารายได้จากโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 5% ในปี 2562 (เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ทรงตัว) เนื่องจากผลงานของโครงการแนวราบที่แข็งแกร่ง (ประมาณ 50%ของรายได้ทั้งหมด) และการประมาณการยอดจองซื้อโครงการแนวราบเติบโต 15% YoY ใน 9 เดือนแรกของปี 2561 ทั้งนี้เราปรับเพิ่มอัตรากำไร
ขั้นต้นโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยปี 2562 จาก 39.50% มาอยู่ที่ 40.0%เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นโครงการคอนโดที่มีกำหนดการโอนในปีหน้ามีแนวโน้มดีมาก (คอนโดที่มีรูปแบบคล้ายกันมีอัตราจองซื้อที่ดีตอนเปิดตัวโครงการเมื่อสองปีที่ผ่านมา) โดยรายได้จากโครงการเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับปี 2561 คาดว่าจะดีกว่าเป้าหมายของบริษัทเล็กน้อยและเติบโต 6% ที่ 26 พันล้านบาท (78% รับประกันแล้วจากยอดขายรอรับรู้รายได้ในปลายเดือนมิถุนายน) สำหรับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิน่าจะลดลงจาก 0.8 เท่า ณ สิ้นปี 2560 มาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 0.6 เท่า ณ สิ้นปี 2561 โดยเราคาดกำไรครึ่งหลังของปี 2561 คิดเป็น 65% ของกำไรทั้งปี โดยเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 84% HoH (โครงการคอนโดมูลค่ารวมอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาทจะเสร็จและเริ่มโอนในช่วงครึ่งหลังปี 2561)

บรรลุเป้าหมายแผนธุรกิจในปี 2561 โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตัวโครงการเชิงรุก

แม้ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 22 พันล้านบาทตามแผนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (56% คือโครงการแนวราบ และ 44% คือ โครงการคอนโด) ลดลง 23% YoY แต่เราคาดว่ายอดจองซื้อรวมอยู่ที่ 27 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (เพิ่มขึ้น 7% YoY) คิดเป็น 80% ของยอดจองซื้อที่ตั้งเป้าไว้ของ SPALI ในปี 2561 ที่ 33 พันล้านบาท หนุนโดยยอดขายสินค้าคงเหลือและอัตราจองซื้อที่ยอดเยี่ยมในช่วงเปิดตัวโครงการใหม่ ดังนั้นเรามองว่า SPALI ไม่มีเหตุผลที่จะผลักดันแผนการเปิดตัวโครงการเชิงรุก 40 พันล้านบาทสำหรับปี 2561 โดยเรามีความเห็นว่าบริษัทอาจมีการเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่โดยเฉพาะคอนโดจากในไตรมาส 4/61 มาเป็นปี 2562 เนื่องจากยอดจองซื้อที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2561 นั้นน่าจะทำได้เกินเป้าหมายแน่อน โดยเรามองการเติบโตของยอดจองซื้อปี 2561 เติบโต 12% ทำสถิติสูงสุดที่ 34 พันล้านบาท (52%คือโครงการแนวราบซึ่งเติบโต 16%, 48% คือโครงการคอนโดซึ่งเติบโต 7%) สูงกว่าผู้บริหารตั้งเป้าไว้ประมาณ 4%

แนวโน้มที่สดใสในระยะยาว

เรามองว่ากำไรของ SPALI มีแนวโน้มแข็งแกร่งในระยะยาว เนื่องจากรายได้ที่ชัดเจนจากยอดขายรอรับรู้รายได้โครงการคอนโด ซึ่งเรามองว่ารายได้จากการขายอสังหาฯ จากแนวราบและคอนโด 50:50 รวมถึงการกระจายรายได้ทางภูมิศาสตร์ (75% จากโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและ 25% จากโครงการในต่างจังหวัด) SPALI มีโครงการคอนโดเสร็จใหม่พร้อมโอนถึง 4 โครงการรวมมูลค่าอยู่ที่ 10 พันล้านบาทที่จะเริ่มโอนในปี 2562, 5 โครงการรวมมูลค่าอยู่ที่ 18 พันล้านบาทในปี 2563 และ 4 โครงการรวมมูลค่าอยู่ที่
20 พันล้านบาทในปี 2564 (รวมทั้งที่จะเปิดตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหงในวันที่ 28 ก.ย.2561) ทำให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ของ SPALI สร้างความชัดเจนของรายได้สูงที่สุดในหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำ