‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังเคลื่อนไหวตามทิศทางเงินดอลลาร์ จับตาการขึ้นดอกเบี้ยเฟดในสัปดาห์นี้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.44บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดตลาดช่วงสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.38บาทต่อดอลลาร์เงินดอลลาร์

ในสัปดาห์นี้ มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างถี่ จะทำให้ตลาดผันผวน โดยรวมยังมองว่าแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เป็นจุดที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุด แนะนำจับตาไปที่เป้าหมายดอกเบี้ยระยะยาว (Long-term Target) ซึ่งถ้าปรับขึ้น จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้นตาม ในทางกลับกันค่าเงินดอลลาร์อาจกลับทิศถ้าเฟดคงมุมมองหรือปรับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวลง เนื่องจากเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศหลักอื่นๆ เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ชี้ว่าในอนาคต อาจมีการปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดเช่นเดียวกับในฝั่งของสหรัฐ

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ก็มีทิศทางแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ ในสัปดาห์นี้ ยังคงมองว่าภาพรวมการเคลื่อนไหวของดอลลาร์จะเป็นปัจจัยแรกที่กำหนดทิศทางค่าเงินบาท อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินช่วงนี้ค่อนข้างเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) เชื่อว่าจะเป็นประเด็นที่หนุนให้การลงทุนในเอเชียได้รับความสนใจ และเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้ยาก มองกรอบเงินบาทระหว่างวัน 32.39-32.49 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทในสัปดาห์ 32.30-32.80 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับสัปดาห์นี้ต้องจับตาไปที่ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ขณะที่กลางสัปดาห์ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ

วันพุธถึงวันพฤหัส การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด คาดว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ย “ขึ้น” ไปที่ระดับ 2.00-2.25%  +25bps จากการประชุมครั้งก่อน และครั้งนี้ จะมีการปรับตัวเลขเศรษฐกิจสามส่วน เชื่อว่าเฟดจะมองเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ ปรับลดเป้าหมายอัตราการว่างานลง และอาจมีการปรับเป้าหมายระยะยาวของดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปที่ระดับ 3.50% ภายในปี 2020

วันพฤหัส ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานในยุโรป (Core HCPI) คาดว่าจะขยายตัว 0.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัวที่ระดับ 1.90%

วันศุกร์ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อในโตเกียวของญี่ปุ่น (Tokyo CPI ex fresh food and energy) คาดว่าจะขยายตัว 0.6% และรายงานเงินเฟ้อในสหรัฐ (Core PCE) คาดว่าจะขยายตัว 2.00% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ที่ระดับ 2.18%

บาทช่วงเช้าขยับอ่อนค่า32.47บาทต่อดอลลาร์ ตามภูมิภาค

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์  ผู้บริหารงานวิจัย กลุ่มงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่ามาที่ระดับประมาณ 32.47 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ จากจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ก่อนหน้าที่ 32.39 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาท และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขยับอ่อนค่าลง หลังรายงานข่าวที่ระบุว่า จีนยกเลิกแผนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเส้นตายของมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับประเด็นตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ การฟื้นตัวขึ้นของเงินดอลลาร์ฯ อาจเป็นผลมาจากการปรับโพสิชันก่อนกำหนดการประชุม FOMC ของเฟดวันที่ 25-26 ก.ย. นี้ด้วยเช่นกัน

 สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 32.40-32.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจหลักของตลาดในสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชุดใหม่ รวมถึงมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะข้างหน้า