ศาลฯ ตัดสินให้ กทพ.ชดเชยค่าเสียหาย 'บีอีเอ็ม' 1.8 พันล้านบาท

ศาลฯ ตัดสินให้ กทพ.ชดเชยค่าเสียหาย 'บีอีเอ็ม' 1.8 พันล้านบาท

ศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้ กทพ.จ่ายชดเชยค่าเสียหาย “บีอีเอ็ม” 1.8 พันล้านบาท เหตุสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์แข่งทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย.) ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.932/2561 โดยยืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินจำนวน 1,790 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามที่กำหนดในสัญญา แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด และได้ยกคำร้องของการทางพิเศษฯ ที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าว

สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการที่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ก่อสร้างทางพิเศษ (ทางด่วน) สายบางปะอิน – ปากเกร็ด ตามสัญญาที่รัฐมนตรีมีมติให้เอกชนเข้าร่วมดำเนินการแต่กรมทางหลวง (ทล.) ได้ก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ – รังสิต ซึ่งบริษัทเห็นว่าเป็นทางแข่งขันกับทางด่วน สายบางปะอิน – ปากเกร็ด ตามที่กำหนดในสัญญา เนื่องจากไม่เข้าข้อยกเว้นที่ระบุไว้ว่าเป็นทางที่ไม่มีลักษณะแข่งขัน จึงร้องขอให้การทางพิเศษฯ ชำระเงินค่าชดเชยปริมาณจราจรและรายได้ที่ลดลงจากประมาณการ

ซึ่งก่อนหน้านี้คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดว่า ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ – รังสิต เป็นทางแข่งขันที่ทำให้ปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด ลดลงจากที่ประมาณการไว้ ซึ่งมีผลกระทบตามสัญญา จึงชี้ขาดให้การทางพิเศษฯ ต้องชำระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ ในปี พ.ศ. 2552 จำนวน 730.80 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย และสำหรับปี พ.ศ. 2553 จำนวน 1,059.20 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย

ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการดังกล่าว ไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ