'ฉัตรชัย' ยกทีมบินเนเธอร์แลนด์ ดูงานบริหารจัดการน้ำมั่นใจไทยมาถูกทาง

'ฉัตรชัย' ยกทีมบินเนเธอร์แลนด์ ดูงานบริหารจัดการน้ำมั่นใจไทยมาถูกทาง

"ฉัตรชัย" ยกคณะเยือนเนเธอร์แลนด์ ดูงานบริหารจัดการน้ำ มั่นใจไทยมาถูกทางแก้ท่วม-แล้งได้

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.61 พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเยือนราชอาณาจักรเนเธอร์ แลนด์ระหว่างวันที่ 17-21 ก.ย.61 ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ในโอกาสนี้ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการน้ำของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟ ทางน้ำและอากาศ โดยจะดูแลการบริหารจัดการน้ำในระดับนโยบาย การบูรณาการแผนงานและข้อมูล จนถึงคณะกรรมการลุ่มน้ำ และได้เยี่ยมชมการทำงานของศูนย์ติดตามประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ เพื่อการบริหารจัดการอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ด้านการจัดการน้ำที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

รองนายกฯ กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของประเทศเนเธอร์แลนด์มีแผนการพัฒนาแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ภายใต้การดำเนินงานของไรจส์วอเตอร์สตาร์ท ( Rijkswaterstaat ) ที่ทำหน้าที่ดูแลกำกับในระดับนโยบาย โดยมีดัชวอเตอร์บอร์ด (Dutch Water Board) ที่มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ปฏิรูปการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์น้ำซึ่งกำลังจะปรับเป็นแผนแม่บทน้ำ 20 ปี การจัดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานกลางกำหนดนโยบาย บูรณาการแผนงาน โครงการ ของหน่วยงานด้านน้ำอย่างเป็นระบบ และ ร่างพ.ร.บ.น้ำ ที่จะเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ มั่นใจว่า การบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยเดินมาถูกทางแล้ว และเชื่อว่าสามารถที่จะคลี่คลายปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่ สทนช.ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำจากประเทศต้นแบบที่มีความเชี่ยวชาญในระบบการจัดการป้องกันน้ำท่วมที่โดดเด่นและได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการน้ำภายใต้สภาวะการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศของโลกที่มีความไม่แน่นอน แต่ประเทศเนเธอร์แลนด์ก็มีระบบการติดตามพยากรณ์ที่แม่นยำเป็นรายชั่วโมง เป็นเรื่องที่น่าสนใจและนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในการบริการจัดการน้ำของไทย ในภาวะวิกฤติที่ต้องการข้อมูลที่แม่นยำมาวิเคราะห์ คาดการณ์และเตือนภัย ซึ่งปัจจุบันเราก็มีการจัดตั้งคณะทำงานแบบรวมศูนย์ โดยให้หน่วยงานเข้ามาทำงานร่วมกันทั้งติดตาม วิเคราะห์ เตือนภัย และให้ความช่วยเหลือ และที่สำคัญของความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาน้ำของเนเธอร์แลนด์คือเปิดโอกาสให้ประชาชนในระดับลุ่มน้ำเข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำด้วย และหากกฎหมายน้ำของไทยแล้วเสร็จก็จะเกิดความชัดเจนในการบริหารจัดการน้ำโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง