สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐหดหนุนราคาพุ่งเกือบ2%

สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐหดหนุนราคาพุ่งเกือบ2%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ (19ก.ย.)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.8%  ปิดตลาดที่ราคา 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 25 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 79.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ อีไอเอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2558 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ส่วนเอพีไอ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 397.1 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน

การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเริ่มได้รับผลกระทบ จากการที่ผู้ซื้อน้ำมันพากันลดคำสั่งซื้อน้ำมันจากอิหร่านแล้ว ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล