ไฟฟ้าลัดวงจร หวิดเผาวอดอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ซอยพหลโยธิน 22

ไฟฟ้าลัดวงจร หวิดเผาวอดอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ซอยพหลโยธิน 22

เพลิงไหม้กลางดึก เหตุไฟฟ้าลัดวงจร หวิดเผาวอดอาคารพานิชย์ 4 ชั้น ซอยพหลโยธิน 22

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 ก.ย.2561 ร.ต.อ.ธีฬะเกียรติ ฑีฆะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้สายไฟฟ้า จนลุกลามเข้าตัวอาคารพาณิชย์ และมีผู้ติดค้างภายใน จำนวน 2 ราย บริเวณอาคารพาณิชย์ ริมถนนพหลโยธิน ขาเข้า ใกล้ปากซอยพหลโยธิน 22 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจ สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และประสานรถน้ำดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร จำนวน 5 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ ปลูกติดกันหลายหลัง สูง 4 ชั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงหน้าอาคารดังกล่าวพบแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งลุกไหม้สายไฟฟ้าเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร ก่อนลุกลามเข้าตัวอาคารพาณิชย์ ที่ชั้นล่างดัดแปลงเป็นร้านถ่ายภาพ ทราบชื่อ โฟโต้ซิตี้ บ้านเลขที่ 1152/10-12 จำนวน 3 คูหา โดยเพลิงลุกไหม้บริเวณป้ายโฆษณาแผ่นไวนิล ขนาดใหญ่ด้าหน้าเสียหายทั้งหมด และลุกลามไปยังร้านโฟโต้ เมกเกอร์ ที่อยู่ด้านข้าง บ้านเลขที่ 1152/8-9 จำนวน 2 คูหาเสียหายเล็กน้อย แต่มีกลุ่มควันที่พวยพุ่งเต็มตัวอาคาร ทางเจ้าหน้าที่จึงลากสายระดมฉีดน้ำดัลเพลิงใช้เวลา 30 นาทีเพลิงจึงสงบ แต่ทว่าคล้อยหลังอีก 30 นาที ได้รับแจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสำลักควัน ที่ยังติดค้างภายในอาคารของร้านโฟโต้เมกเกอร์ จำนวน 2 ราย ที่บริเวณชั้น4 ของอาคาร กระทั่งทางเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงเข้าไปช่วยเหลือนำลงมาได้ ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ. ทางตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามน.ส.รุ่งนภา ไกรทอง อายุ 41ปี พนักงานร้านโฟโต้ซิตี้ เล่าด้วยความตื่นกลัวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและพนักงานร้านคนอื่นๆนอนพักผ่อนหลังจากการทำงานบริเวณชั้นบนของอาคาร โดยได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ด้วยความตกใจจึงรีบพากันวิ่งลงมาดูที่หน้าร้าน พบว่ามีแสงเพลิงกำลังลุกไหม้สายไฟ ก่อนจะลุกลามไปในตัวอาคารทางสายไฟที่พาดไปยังอาคารแห่งนี้ โดยถือว่าโชคยังดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ด้าน ร.ต.อ.ธีฬะเกียรติ กล่าวว่า จากแนวทางการสอบสวนทราบว่ามีผู้ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงระเบิด ก่อนไฟไหม้ลุกลามเข้าตัวอาคาร เบื้องต้นพบว่าเสียหายเพียงแผ่นป้ายโฆษณาหน้าร้าน ทรัพย์สินภายในไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงกลุ่มควันจำนวนมาก ซึ่งได้สันนิษฐานสาเหตุเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อม ตลอดจนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป