ย้ำให้ออกราชการ '3บิ๊กตร.' พร้อมเด้งอีก15นาย คดีฉ้อโกงปชช.พันล้าน

ย้ำให้ออกราชการ '3บิ๊กตร.' พร้อมเด้งอีก15นาย คดีฉ้อโกงปชช.พันล้าน

"บิ๊กโจ๊ก" ย้ำชัดเจนให้ออกราชการ "3บิ๊กตร." พร้อมเด้งอีก15นาย คดีฉ้อโกงปชช.พันล้าน เครือข่ายอดีตผู้การฯสุทิพย์ คาดสรุปสำนวนได้ภายใน 30 วัน

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้าสอบปากคำ 2 ผู้ต้องหา เครือข่าย พลตำรวจตรีสุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ในคดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ กว่า 200 ล้านบาท และเชื่อมโยงเครือข่ายแชร์ลูกโซ่หลอกลวงประชาชนร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งได้เดินทางเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน หลังถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผู้ต้องหา 2 รายดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ที่พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้กระทำผิด

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 17 คน บางส่วนได้ถูกออกหมายจับ และเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนกรณีที่นายตำรวจ จำนวน 3 นาย ซึ่งถูก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน เบื้องต้นพบการกระทำผิดชัดเจน มีเส้นทางการเงินพัวพันกับเครือข่ายนี้ ขณะที่ตำรวจอีก 15 นาย ได้ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม โดยพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรมกับตำรวจทุกนาย หากไม่พบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด จะพิจารณาให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด

“ในส่วนของการดำเนินคดีกับเครือข่ายดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวน จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนคดีส่งให้กับอัยการ เพื่อดำเนินการส่งฟ้องศาล โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน” รอง ผบช.ทท. กล่าว

นอกจากนี้ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีตำรวจภูธรจังหวัดเลย และครอบครัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือในการติดตามเงินคืน โดยพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ระบุว่า ขอให้มั่นใจว่าทีมสืบสวนจะเร่งติดตามยึดทรัพย์มาคืนให้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้สามารถยึดทรัพย์เครือข่ายได้แล้วกว่า 140 ล้านบาท ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น เห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ถูกผู้บังคับบัญชาหลอกให้กู้ยืมเงิน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนในเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว