รอง ผบช.ทท. ยืนยันคดีอดีตผู้การฯเลย คืบหน้าสำนวนส่งอัยการภาย 1 เดือน ยึดทรัพย์แล้วกว่า 140 ล้าน เร่งนำเงินคืนตำรวจเลย
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุระชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบช.ทท. และ พล.ต.ต.บุญลือกาบางยาง รอง ผบช.ภ.4ร่วมทำการสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร่วมกันกับ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สกพ.(รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย หลังมีการติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน2คน ซึ่งเป็นแม่ลูกกันจากจังหวัดเชียงใหม่ที่เชื่อมโยงในกระบวนที่เกี่ยวกับพันกลุ่มข้าราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยทีมสอบสวนได้นำตัวทั้ง2คนไปสอบปากคำชั้น4โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์แต่อย่างใด
พล.ต.ต.สุรเชษฐหักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า คดีของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เมื่อวานนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดเลย มีข้าราชการตำรวจครอบครัว เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้เร่งรัดในการดำเนินคดี และเอาเงินกลับมาคืนตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งหมด ขณะนี้การทำคดี ชุดพนักงานสอบสวนสืบสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก้าวไปมาก ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วทั้งหมด17ราย ทั้งมอบตัวก่อนทั้งออกหมายจับ วันนี้ก็เข้ามาอบตัวอีก2ราย รวมทั้งการยึดทรัพย์ ขณะนี้ยึดทรัพย์ไปทั้งหมด140กว่าล้านบาท
ซึ่งการตรวจสอบทรัพย์สินและการดำเนินการนั้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว การคืนทรัพย์ให้กับข้าราชการตำรวจ จ.เลย ก็จะทำควบคู่กันไป ซึ่งในการคืนทรัพย์สินนั้นเบื้องต้นต้องคืนให้กับข้าราชการตำรวจก่อน เพราะผู้เสียหายในคดีนี้นั้นขณะนี้มีเพียงข้าราชการตำรวจเท่านั้นที่มาแจ้งความเอาผิด ซึ่งหากประชาชนที่เป็นผู้เสียหายที่ถูกขบวนการของ พล.ต.ต.สุทิพย์ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนหรือมีพฤติกรรมการทำผิดเช่นเดียวกันกับตำรวจที่ถูกหลอกลวงก็ขอให้เข้ามาแจ้งความเอาผิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ดำเนินการทางคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งให้ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากที่ถูกขบวนการของ พล.ต.ต.สุทิพย์นั้นหลอกลวงแต่ไม่กล้าเพราะความกลัว เนื่องจากคนผิดคือตำรวจ ก็ขอให้ประชาชนนั้นมั่นใจว่าตำรวจนั้นไม่เอาตำรวจที่ทำผิดไว้ในวงการอยู่แล้ว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผบ.ตร. ข้าราชการตำรวจหรือข้าราชที่กระบวนการยุติธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อวาน ผบ.ตร.มีคำสั่งให้รองผู้การจังหวัดพังงาผกก.และรอง ผกก.ให้ออกจากราชการไปก่อน3ราย ส่วนอีก15คนที่เป็นข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค4ส่วนใหญ่ และเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน เมื่อวาน ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งทั้ง15รายต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ถ้าผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีแต่ถ้าเมื่อสอบสวนแล้วไม่ผิดก็ต้องกลับเข้าทำงานตำแหน่งเดิมได้
ซึ่งไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเพราะสังกำลังจับตามองการทำงานของตำรวจ โดย พล.อ.ประยุทธ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. รวมทั้ง พล.อ.ประวิทย์วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับควบคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั้นย้ำชัดในการดำเนินการอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา พบใครกระทำผิดทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม หากพบการกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
รอง ผบช. ทท.กล่าวอีกว่า คดีนี้มีผู้เสียหายเป็นตำรวจ จ.เลย ที่มียอดเงินเสียหายรวมกว่า200ล้านบาท และยังคงมีประชาชนที่เสียหาย ที่คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า1,000ล้านบาท แต่ที่เป็นผู้เสียหายชัดเจนเป็นกลุ่มตำรวจจังหวัดเลย ส่วนประชาชนทั่วไปนั้นต้องการให้มีเข้ามาแจ้งความเพื่อที่จะเป็นผู้เสียหายชัดเจนและจะสามารถได้เงินคืนได้ ทั้งนี้ยังขอให้ตำรวจจังหวัดเลยเชื่อมั่นว่าจะสามารถได้เงินคืนโดยเร็วที่สุด