ไอเอ็มเอฟเตือนศก.อังกฤษหดตัว

ไอเอ็มเอฟเตือนศก.อังกฤษหดตัว

หากแยกตัวจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงเบร็กซิท ด้านดอยช์แบงก์ประกาศใช้แฟรงก์เฟิร์ตเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งด้านการลงทุนของธนาคาร แทนกรุงลอนดอน

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะหดตัว ถ้าหากมีการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) โดยไม่มีการทำข้อตกลง และยังระบุว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ไม่ว่าอังกฤษจะทำข้อตกลงเบร็กซิทกับสหภาพยุโรป (อียู) ในรูปใดก็ตาม

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะมีการขยายตัวเพียง 1.5% ในปีนี้และปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าเยอรมนีและฝรั่งเศส ในกรณีที่อังกฤษสามารถทำข้อตกลงเบร็กซิทในวงกว้างกับอียู ซึ่ง เศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัวลงนับตั้งแต่การทำประชามติแยกตัวออกจากอียูเมื่อปี 2559 และขณะนี้ ยังคงมีตัวเลขการขยายตัวต่ำกว่าชาติร่ำรวยอื่นๆ

ขณะเดียวกัน นางลาการ์ดยังระบุว่า ไอเอ็มเอฟจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในรายงานที่จะมีการเปิดเผยในเดือนพ.ย.

ขณะที่ธนาคารดอยซ์ แบงก์ ออกแถลงการณ์ว่า ธนาคารจะโยกย้ายสินทรัพย์ออกจากกรุงลอนดอนไปยังเมืองแฟรงก์เฟิร์ต หลังจากที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า

แถลงการณ์ระบุว่า ดอยซ์ แบงก์จะใช้เมืองแฟรงก์เฟิร์ตเป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งสำหรับการลงทุนด้านการธนาคาร แทนกรุงลอนดอน

“ธนาคารกำลังโยกย้ายสินทรัพย์จากลอนดอนไปยังแฟรงก์เฟิร์ต โดยได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป” แถลงการณ์ระบุ

แหล่งข่าวกล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังกดดันให้ธนาคารต่างๆโยกย้ายการทำธุรกรรมวาณิชธนกิจออกจากลอนดอนไปยังยุโรป โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกร้องให้ธนาคารต่างๆเคลื่อนย้ายทุน, การบริหารจัดการความเสี่ยง และหน่วยงานกำกับดูแลไปยังยุโรปเพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมด้านวาณิชธนกิจ