ปอท.จับหนุ่มกัมพูชา แพร่ข่าวปลอมเว็บเถื่อน

ปอท.จับหนุ่มกัมพูชา แพร่ข่าวปลอมเว็บเถื่อน

ตำรวจปอท.ส่งสำนวนคดี "หนุ่มกัมพูชา" แอดมินเว็บเถื่อนเผยแพร่ข่าวปลอมอ้าง นายกฯไล่เติมน้ำเปล่าแทนดีเซล

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 61 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. พร้อม ร.ต.อ.เปตอง ด่านปรีดา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.ได้สอบปากคำนายรัตนะ เฮง สัญชาติกัมพูชา ผู้ ต้องหมายจับศาลอาญาที่ 1154/2561 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน อีกครั้งก่อน ควบคุมตัวไปส่งฟ้องอัยการ พร้อมผู้ต้องหาชาวไทย 6 คนที่แชร์ข่าวปลอมพาดหัวว่า “บิ๊กตู่ฟิวขาดด่ากราด ไล่ให้เติมน้ำเปล่าแทนดีเซล อย่าโง่ วอนประชาชนอย่าเรื่องมาก” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับนายรัตนะ เฮง ผู้ต้องหาชาวกัมพูชารายนี้ เป็นเจ้าของหรือแอดมินเว็บไซด์ Ratstas.com ที่มีการผลิต และนำเข้าสู่ระบบบิดเบือนสร้างข่าวปลอมว่าท่านนายกรัฐมนตรีไล่คนไทยไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมันที่ราคาแพง ทาง บก.ปอท.ได้สืบ สวนสอบสวนจนออกหมายจับนายรัตนะ เฮง และ นายหลุยส์ ชาวกัมพูชา ร่วมกับผลิตข่าวปลอมและนำเข้าสู่ระบบคอมพ์ฯ พร้อมกับได้ออกหมายเรียกคนไทย จำนวน 6 ราย ที่เป็นผู้แชร์ข่าวปลอมจากเว็บไซด์ดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกและนำตัว นายรัตนะ เฮง และคนไทย 6 คน มาพบเพื่อไปส่งให้อัยการพร้อมสำนวนคดีให้ดำเนินการตามขึ้นตอนตามกฎหมายต่อไป สำหรับตัวนายรัตนะ เฮง ผู้ดูแลเว็บไซด์ Ratstas.com ที่มีการผลิตและนำเข้าข่าวปลอมมาแล้วหลายครั้ง ยังคงยืนยันคำให้การเดิมว่า นายหลุยส์ที่เรากำลังเร่งหาตัวมาดำเนินคดีเป็นคนทำข่าวปลอมต่างๆ ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเว็บไซด์Ratstas.com ได้ทำข่าวปลอมมาแล้วหลายครั้งเช่น ข่าวนายกฯ ไล่ไปเติมน้ำแทนน้ำมันแพง ข่าวทีม หมูป่าติดถ้ำเสียชีวิต ข่าวที่ใช้โลโก้ปลอมของสำนักข่าว NEWS ล่าสุดข่าวปลอมที่ระบุว่าเก๋ ลาเดอเลอร์ มีผลเลือดเป็นบวก สาเหตุติด เอดส์จากพระเอกหนุ่ม ปั่นจั่น ปัทมะ ซึ่งเป็นข่าวปลอมทั้งสิ้น ทำขึ้นเพื่อหวังเงินค่าโฆษณา กับเรียกยอดคนดู แต่คดีเหล่านี้เป็นความ ผิดหมิ่นประมาท บก.ปอท.ได้ส่งต่อให้ สน.ท้องที่เกิดเหตุรับไปดำเนินการแล้ว สำหรับนายรัตนะ เฮง อ้างว่าเว็บไซต์ดังกล่าวจดในนามของตนจริง ซึ่งการเปิดสมัครเว็บไซต์ที่ประเทศกัมพูชาจำเป็นต้องมีการยืนยัน ตัวบุคคลด้วยเลขหน้าบัตรเครดิต แต่เพื่อนที่ชื่อหลุยส์เป็นผู้ขอให้เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวให้ ทั้งยังอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการนำเข้า ข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ และกล่าวขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่สร้างความเสียหายให้กับทางรัฐบาล จากการตรวจสอบ ประวัติการเงินพบว่ามีรายได้เข้าบัญชีของนายรัตนะ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการที่มีคนกดไลค์ กดแชร์ติดตามข่าวสาร รวมทั้งพบบท สนทนาระหว่างนายหลุยส์กับนายรัตนะพูดคุยกัน โดยที่นายหลุยส์ขอให้นายรัตนะ ทำการปิดเว็บไซต์หลังถูกทางการไทยติดตาม ปอท.ได้ตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวทราบว่าจดทะเบียนโดยนายรัตนะ เฮง ชาวกัมพูชา และมีการสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ โดยรอบปีนี้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จถึง 3 ครั้ง มีการบิดเบือนข้อมูลการสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี 1 ครั้ง บิดเบือน ด้านนโยบายรัฐบาล 1 ครั้ง และโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.นครราชสีมาอีก 1 ครั้ง ซึ่งข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปทางโซเชีย ลถูกส่งต่อออกไปเป็นจำนวนมาก การบิดเบือนข้อมูลของนายรัตนะกระทบต่อความมั่นคงและความเชื่อมั่นของรัฐบาล รวมถึงตัวของ นายกรัฐมนตรี และส่งผลถึงปัญหาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ จึงต้องเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีอาญาให้เร็วที่สุด ทางด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ได้ฝากเตือนผู้ใช้โซเชียลว่า การรับและส่งข้อมูลทางโซเชียลต้องรอบคอบคิดให้ดีก่อนส่งหรือแชร์ต่อ ควร ตรวจสอบว่ามีความจริงมากน้อยเพียงใด สามารถตรวจสอบว่าเป็นข่าวจริงน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ด้วยการเปรียบเทียบกับสำนักข่าว หลักๆ ที่น่าเชื่อถือ และเพจของทางราชการ ดูว่าข่าวเหล่านั้นมันจริงหรือเท็จ อย่ารีบร้อนส่งต่อ ความผิดตาม พรบ.คอมพ์ ม.14(5) เป็น การส่งต่อข้อมูลที่เป็นความผิดตาม พรบ.คอมพ์ฯ อัตราโทษคนแชร์ข่าวปลอมมีอัตราโทษสูงเท่ากับคนนำเข้าสู่ระบบ คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ลองเข้าไปคนข้อมูลข่าวจากกลูเกิ้ล ก่อนจะแชร์ข่าวต่อไป