"พล.อ.ประยุทธ์" เดินสาย หลัง "คลายล็อกการเมือง" บอก "คนเมืองเลย" ช่วยกันวาดหวัง ให้ได้ "รัฐบาล" ดีมาดูแล แจงไม่เป็นศัตรูกับ "นักการเมือง" ออกปากชวนตระกูล "เร่งสมบูรณ์สุข" มาช่วยกันทำงาน
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมคณะประกอบด้วยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทาง ลงพื้นที่ในการตรวจราชการ จ.เลยและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) จ.เพชรบูรณ์ระหว่างวันที่ 17-18ก.ย.61
โดยเมื่อเวลา 08.40น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางมาที่หอประชุมทองวิไลมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จ.เลย เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดถนน 4 เลน หมายเลข 201ตอน เลย-เชียงคานก่อนเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้แก่ประธานป่าชุมชน 5จังหวัด (บึงกาฬ เลยหนองคาย หนองบัวลำภูและอุดรธานี) โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯเลย และข้าราชราชประชาชนกว่า 1,500ให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ภายหลังพระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และพระราชบัญญัติว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ประกาศในราชกิจกานุเบกษา จนมีคำสั่งมาตรา 44 คลายล็อกพรรคการเมือง โดยก่อนนายกฯ มาถึงได้มีการประกาศประชาสัมพันธ์ผลงานและโครงการของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบ เช่นโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การท่องเที่ยวเมืองรองและมาตรการช่วยเหลืออื่นๆนอกจากนี้ยังมีการแจกหมวกเพื่อประชาสัมพันธ์เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” ของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ภรรยา นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.เลย และอดีต ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ได้มาต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย โดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์เนื่องจากมาในนามสภาสตรี จ.เลยจึงขอไม่พูดถึงประเด็นทางการเมืองเพราะกลัวไม่เหมาะสม ขณะที่นายปรีชานั้น มีการเตรียมเก้าอี้ในหอประชุมพร้อมป้ายชื่อกำกับ แต่นายปรีชาไม่ได้มาต้อนรับ ภายหลังมีข่าวว่านายปรีชาจะเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางจังหวัดได้ต้อนรับนายกฯด้วยวงดนตรีผสมของคนหลายสาขาอาชีพขับร้องเพลง“สร้างไทยไปด้วยกัน”และเพลง “มากกว่ารัก”ของโรส ศิรินทิพย์เพื่อเป็นกำลังใจให้พล.อ.ประยุทธ์มีข้อความในเวทีว่า“รักลุงตู่นะคะ”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า รู้สึกเต็มตื้นที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ครั้งนี้ได้มาภาคเหนือและอีสานที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ได้ยิ่งฟังเพลงมากกว่ารักต้อนรับ แล้ว รู้สึกซาบซึ้งเต็มตื้นตนไม่ได้ให้ทุกคนมารักหรือทุกคนรักตนแต่ตนไม่รักทุกคน เพราะเมื่อทุกคนรักตนตนก็รักท่าน หรือแม้ไม่รักตนก็รักทุกคนอยู่ดีเพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือใครก็ตามที่เข้ามาทำงานการเมืองตรงนี้วันนี้เรายังทำหน้าที่เป็นรัฐบาลอยู่เราคงต้องรอคอยรัฐบาลใหม่ ที่จะมาในวันข้างหน้าซึ่งทุกคนต้องร่วมมือและช่วยกันวาดหวังว่าเราจะได้รัฐบาลที่ดีมาดูแลพวกเราอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราจะคิดแบบเดิมอีกไม่ได้แล้ว เราจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวถ้าทำงานไปด้วยกันเดินไปข้างหน้าในลักษณะไทยช่วยไทยที่ช่วยน้อง เพื่อนจูงเพื่อนไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังภายใต้การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมซึ่งจะไม่ใช่คำพูดที่เป็นนามธรรมอีกต่อไปแต่การทำให้เป็นรูปธรรมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือและเดินไปด้วยกันมิเช่นนั้นทุกคนจะลำบากรัฐบาลจึงพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อจะขับเคลื่อนให้ทุกจังหวัดเดินไปครั้งหน้าบนพื้นฐานความแตกต่าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เหมือนกับการตัดเสื้อให้ใส่หลายคนและหลายตัวเพราะจะตัดเสื้อตัวเดียวให้กันไม่ได้จึงจำเป็นต้องแยกแยะหาเป้าหมายวิธีการในการดำเนินการแต่ละพื้นที่ทุกคนจึงต้องเรียนรู้ในสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายลดความยากจนในอดีตนั้นเรามีความเหลื่อมล้ำมากสำหรับโครงการไทยนิยมฯแม้จะเป็นงบประมาณไม่กี่แสนบาทลงในทุกหมู่บ้านแต่ถือเป็นการเริ่มต้นจุดประกายความหวังของพวกเราซึ่งภาครัฐก็จะต้องพัฒนาเติมลงไป เพราะถ้ามัวสนับสนุนแต่เป็นกลุ่มหรือรายบุคคลจะไม่มีวันลดความเหลื่อมล้ำลงได้ ไม่เกิดการกระจายรายได้นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างคนรวยและคนจนวันนี้ทุกอย่างจึงจำเป็นต้องไปด้วยกันที่สำคัญวันนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวกับโลกยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4ที่จะมีการใช้เทคโนโลยีทันสมัย สร้าง นวัตกรรมต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่าหวาดกลัวเพราะอย่างไรก็ต้องเดินไปถึง
“รัฐบาลมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จ.เลยนั้นมีมนต์เสน่ห์ในการท่องเที่ยวเป็นเมืองแห่งทะเลหมอกและภูเขาเราต้องทำให้ภูเขามีต้นไม้เช่นที่ทุกคนบอกว่ารักลุงตู่ก็จะต้องช่วยกันทำให้ลุงตู่มีกำลังใจ และเมื่อลุงตู่เจอทุกคนก็มีกำลังใจแล้ว เสาร์-อาทิตย์ ผมนั่งพักผ่อน ทำงานบ้างเขียนหนังสือบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะผมยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ บางทีก็มีกำลังใจบางทีก็ท้อแท้แต่ก็ท้อไม่ได้เพราะพวกเราทุกคนรออยู่ เมื่อท้อแท้ก็นึกถึงหน้าประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น ถ้าพวกท่านท้อแท้ขอให้นึกถึงหน้าผมก็แล้วกันหรือนึกถึงหน้าผมแล้วจะท้อหนักกว่าเดิม ก็ไม่รู้ยืนยันว่าผมไม่ได้อะไรกับพวกท่านเลยมีใครเดือดร้อนอะไรกับผมบ้างผมว่ามีไม่กี่คนที่เดือดร้อนกับผม เบื่อรัฐบาล และคสช.ก็ว่ากันไปเถอะเพราะวันนี้เรากำลังทำสิ่งที่ดี และดีกว่าเดิม”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองอดีตนักการเมืองไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้นเพียงแต่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฏหมายขั้นตอน กรรมาวิธี ไม่จำเป็นต้องไปสั่งไล่ล่าฆ่าฟันใครเราเร่งพัฒนาบ้านเมืองไปสู่ความสงบเรียบร้อยมีความอบอุ่นจะได้ไม่โดดเดียวทุกคนเห็นแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เรามีรอยยิ้มไม่มีการสร้างความวุ่นวายเหล่านี้จะทำให้เราไม่เหงามิเช่นนั้นจะทำให้เราเหงาคุยกันไม่ได้แสดงความคิดเห็นก็ไม่ได้
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ชี้ไปที่นางเปล่งมณีเร่งสมบูรณ์สุข พร้อมกล่าวว่า “ใช่หรือไม่คุณเร่งสมบูรณ์สุข ดีหรือเปล่านะแบบนี้ขอให้มาช่วยกันก็แล้วกัน ก็ทำงานให้ดี จะช่วยใครผมไม่รู้ ขอให้ช่วยประชาชนในลักษณะที่ไปด้วยกันทั้งจังหวัดเพราะทั้งหมดคือประเทศไทย ซึ่งมี 77 จังหวัดเราจะเดินแค่จังหวัดเดียวไม่ได้และถ้าให้อะไรกับใครคนใดคนหนึ่งแล้วที่เหลือจะได้อะไรรัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องทำเช่นนี้ต้องยึดมั่นให้เป็นหลักการของประเทศ”