รวบหนุ่มแดนมังกร พร้อมสมุนคนไทย จับนักธุรกิจวัย 27 เรียกค่าไถ่

รวบหนุ่มแดนมังกร พร้อมสมุนคนไทย จับนักธุรกิจวัย 27 เรียกค่าไถ่

ตำรวจสุทธิสาร และชุดสืบสวน บก.น.2 บุกรวบหนุ่มแดงมังกร พร้อมสมุนคนไทย ก่อเหตุลักพาตัว นักธุรกิจชาวจีนวัย 27 ไปเรียกค่าไถ่ สุดท้ายเหยื่อหลอกให้กลับมาเอารถยนต์ที่คอนโดหรูฯ ถูกตำรวจซ้อนแผนรวบได้ 2 ราย หลบหนี 1

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายหลิว ซงไฮ่ อายุ 34 ปี สัญชาติจีน และนายสมชาย มานิโช อายุ 33 ปี ชาวไทย หลังก่อเหตุเรียกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ นายเผิง ซีเฮ่า อายุ 27 ปี สัญชาติจีน นักธุรกิจรับจ้างขนส่งนำเข้าสินค้าจากจีนเข้ามาในไทย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณถนนหน้าร้านอาหารย่านแยกเหม่งจ๋าย โดยแจ้งข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและร่วมกันเรียกค่าไถ่

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุนายเผิง ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่มาถึงจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้มีคนร้าย 3 คน ขับรถฮอนด้า แจ็ส พุ่งชนท้ายรถนายเผิง แล้วทำทีลงมาเจรจาค่าเสียหาย โดยเมื่อนายเผิงเปิดประตูออกมา ทางคนร้ายซึ่งได้แบ่งหน้าที่กันเอาไว้แล้ว ได้ใช้อาวุธมีดจี้เอวพานายเผิงขึ้นรถของตัวเอง ก่อนขับรถพาไปพักที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยคนร้ายยังได้บังคับให้นายเผิง เขียนสัญญาว่าเป็นหนี้จำนวนเงิน 140,000 หยวน หรือประมาณ 7 แสนบาท และจะต้องชำระเงินภายใน 2 เดือน นับแต่เขียนสัญญานี้ โดยให้ลงมือชื่อพร้อมประทับลายนิ้วมือไว้ในสัญญา

อย่างไรก็ตาม นายเผิง ได้โอนเงินในตอนแรกไป 1,900 หยวน หรือ 9,500 บาท และยังได้ถูกบังคับให้ไปขอยืมเงินจากเพื่อนฝูงคนไทย และคนจีนให้โอนเงินมาเพิ่มอีก โดยนายเผิง ได้หาเงินมาจากเพื่อนได้อีกประมาณ 40,000 หยวน หรือประมาณ 2 แสนบาท ตลอดช่วงการบังคับข่มขู่นั้น ทางนายเผิง ต้องนั่งบนพื้นไม่ได้หลับตลอดเวลาจนถึงวันที่ 14 ก.ย.

ต่อมานายเผิง ได้ติดต่อกับทางญาติคนจีน ที่อยู่ในประเทศไทย และภรรยาชาวจีนเพื่อขอเงินเพิ่ม ระหว่างนั้นนายเผิง ได้แอบส่งข้อความขอความช่วยเหลือ ทำให้ทางญาติเข้าติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับแจ้งความเอาไว้ที่ สน.สุทธิสาร ในวันที่ 14 ก.ย. โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผน ร่วมกันจับกุมทันที

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตำรวจทราบว่า เหยื่อถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ จึงได้ให้นายเผิง ที่ถูกจับตัวนั้น ออกอุบายว่า ยังมีรถยนต์อยู่ที่คอนโดมิเนียม เดอะคริส 3 ซอยรัชดาภิเษก17 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ และสามารถนำมาขายได้ คนร้ายจึงพาตัวนายเผิง มาจากเมืองพัทยา ในวันที่ 15 ก.ย. กลับมาที่คอนโดฯ แห่งนี้ที่ กทม. โดยคนร้ายได้ใช้มีดจี้ตัวมาตลอดทาง และเมื่อมาถึงคอนโดมิเนียม นายเผิง ได้อาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอกระโดดลงจากรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ 2 คน ที่เป็นคนนำตัวนายเผิง มา โดยยังเหลือคนร้ายที่หลบหนีไปได้ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายเป้

ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ทางผู้ต้องหาอ้างว่า รู้จักกันกับทางผู้เสียหายทางวีแชท และรู้จักกันมาสักพักแล้ว ซึ่งเห็นเหยื่อโพสท์รูปรถ ก็คิดว่ามีทรัพย์สินจำนวนมาก จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ต้องหาให้การว่า ผู้เสียหายติดหนี้พนันบอล ซึ่งถือเป็นคำให้การกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ถือว่ากลุ่มผู้ต้องหามีความผิดในการเรียกค่าไถ่ หากเป็นหนี้เป็นคดีแพ่งก็ต้องฟ้องศาลเอา ไม่ใช่มาก่อเหตุอุกอาจแบบนี้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยต้องสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง ว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องใดกันแน่ ตอนนี้ก็จะต้องสอบปากคำผู้เสียหายต่อไป

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวจีนรายนี้ทราบว่ามีภรรยาเป็นคนไทย เปิดร้านขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่พัทยา และเดินทางเข้าออกประเทศไทยอยู่เป็นประจำ โดยผู้ต้องหาชาวจีน ได้ว่าจ้างผู้ต้องหาชาวไทยเป็นเงิน 5,000 บาท ให้มาร่วมก่อเหตุดังกล่าว โดยอ้างว่าให้มาทวงหนี้ เพราะผู้เสียหายเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมไล่ล่าผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่มารับโทษต่อไป