'วรรณรัตน์' เร่งนัดประชุม กก.บห. หลัง คสช. คลายล็อก

'วรรณรัตน์' เร่งนัดประชุม กก.บห. หลัง คสช. คลายล็อก

“วรรณรัตน์” เร่งนัดประชุม กก.บห. เตรียมพร้อมจัดประชุมใหญ่ หลัง คสช. คลายล็อกแล้ว ยืนยัน “ชาติพัฒนา” ยังเดินหน้าต่อ ไม่ยุบ-ไม่รวมกับใคร ชี้ “รธน.” กำหนดให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมตัดสินใจพรรคเดินหน้าหรือไม่

เมื่อวันที่ 15 กันายน 2561 นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงการคลายล็อกทางการเมือง โดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่คสช. เร่งคลายล็อกทางการเมืองให้กับพรรคการเมืองเตรียมพร้อมและเตรียมตัวลงสนามการเลือกตั้ง โดยหลังจากนี้ตนจะนัดคณะกรรมกรบริหารพรรคชุดปัจจุบัน เพื่อนัดหมายและเตรียมงานจัดประชุมใหญ่ของพรรค โดยสิ่งที่พรรคต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วน คือ เร่งหาสมาชิกพรรคให้เพียงพอต่อการจัดตั้งสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ให้ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด

“ตอนนี้สมาชิกพรรคที่ยืนยันจะอยู่กับพรรคชาติพัฒนา ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีกสาน ประมาณ5,000 คน ดังนั้นหากพรรคจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งให้ครบทุกเขตเลือกตั้ง จำเป็นต้องหาสมาชิกพรรคให้มากกว่านั้น และให้เพียงพอต่อการจัดตั้งสาขาพรรค ครบ 4 สาขา โดยการดำเนินการตามขั้นตอนที่ คสช. กำหนดกรอบ 90 วันให้เสร็จนั้น ผมมองว่าจะแล้วเสร็จได้หรือไม่ ปัจจัยสำคัญ คือการหาสมาชิกพรรคให้ได้เพียงพอต่อการตั้งสาขา” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่าสำหรับการหาสมาชิกพรรคที่ขณะนี้มีคู่แข่งเป็นพรรคการเมืองหลายพรรคนั้น ไม่หวั่นไหว เพราะพรรคผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้ง ดังนั้นเข้าใจได้กับการแข่งขันกับพรรคการเมือง ขณะที่การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. ของพรรคนั้น เบื้องต้นจะส่งใหมากที่สุด เพราะการเลือกตั้งด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียว การได้คะแนนนิยมจากผู้สมัครในเขตต่างๆ มีความสำคัญต่อการได้เสียง ส.ส. เพิ่มในส่วนของบัญชีรายชื่อ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงสถานะและทิศทางของพรรคชาติพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ยืนยันว่า พรรคชาติพัฒนายังอยู่ ไม่ยุบ และไม่รวมกับพรรคการเมืองใดแน่นอน ส่วนอนาคตจะร่วมงานการเมืองกับพรรคการเมืองใดหลังเลือกตั้งหรือไม่นั้น ต้องรอพิจารณาผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการเลิกกิจการของพรรคนั้น ในรัฐธรรมนูญกำหนดให้สมาชิกพรรคร่วมตัดสินใจ ดังนั้นประเด็นที่เป็นข่าวนั้น คณะกรรมการบริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรค ไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงลำพัง.