สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 10-14 กันยายน 2561

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 10-14 กันยายน 2561

ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ข้าวโพดมีราคาเพิ่มขึ้น ไก่เนื้อราคาลดลง

ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น

          จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชะลอตัว ผลผลิตข้าวโพดที่ออกสู่ท้องตลาดจึงลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากราคาหาบละ 510 บาท เป็นหาบละ 531 บาท

          ด้านราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 12 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนกันยายน ราคาอยู่ที่ 341.50 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่ปรับลดลง เนื่องจากกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา ปรับคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าผลผลิตปี 2561/2562 จะได้ 376.6 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากรายงานเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอีก 6.11 ล้านตัน   ขณะเดียวกันยังปรับตัวเลขสต็อกปลายฤดูปีหน้าเพิ่มจากเดิม  ประกอบกับ ผลผลิตข้าวโพดของบราซิลไม่ได้ลดลงตามที่คาดไว้ โดยยืนผลผลิตเท่าเดิมที่ 94.50 ล้านตัน และมากกว่าปีก่อนหน้าที่มีผลผลิต 82.0 ล้านตัน แนวโน้มราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่างประเทศคาดว่าอาจจะอ่อนตัวลงอีก โดยต้องติดตามสถานการณ์พายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่กำลังจะเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะอ่อนตัว

 

ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

          ในสัปดาห์นี้กากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 16.00 บาท

          สำหรับราคากากถั่วเหลืองและเมล็ดถั่วเหลือง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 12 กันยายน 2561 รอบส่งมอบเดือนกันยายน ราคาอยู่ที่ 315.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ชอร์ตตัน  ส่วนเมล็ดถั่วเหลืองราคาอยู่ที่ 829.00 เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากภาวะอุปสงค์ระยะสั้นดีขึ้น โดยแนวโน้มน่าจะยืนอ่อน เนื่องจากทั้งปริมาณผลผลิตและสต็อกถั่วเหลืองสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนอ่อน

 

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

          เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงมรสุม การจับปลาจึงทำได้ยากลำบาก ทำให้ปริมาณปลาที่นำมาผลิตปลาป่นลดลง แต่ยังคงเพียงพอกับความต้องการ ส่งผลให้ราคาปลาป่นในสัปดาห์นี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปลาป่นเกรดกุ้งกิโลกรัมละ 47.50 บาท ปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป กิโลกรัมละ 42.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน กิโลกรัมละ 39.70 บาท

          ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 40.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน  60 ราคากิโลกรัมละ 37.70 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะยืนแข็ง

 

ข้าว : ราคาทรงตัว

          ปัจจุบันอยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว ทำให้มีปริมาณข้าวเปลือกทยอยเข้าสู่ท้องตลาด ขณะที่ผู้ซื้อในต่างประเทศชะลอการซื้อ ส่งผลให้ราคาข้าวโดยรวมสัปดาห์นี้ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้าว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาทรงตัวที่ตันละ 425 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ทรงตัวที่ราคาตันละ 350 ดอลลาร์สหรัฐฯ

          สำหรับการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ทรงตัวที่กระสอบละ 1,250 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ราคาอยู่ที่กระสอบละ 1,010 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว

 

สุกร : ราคาทรงตัว

          ด้วยความพยายามแก้ไขปัญหาราคาสุกรขุนของเกษตรกรทั่วประเทศยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์การค้าสุกรยังมีฐานราคาที่มั่นคงต่อเนื่อง โดยราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติยืนราคาที่ 65-69 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ยืนราคาที่ตัวละ 1,800 บาท (บวก/ลบ 63)

          ทั้งนี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุถึงการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) ที่เกิดในประเทศจีนว่า ประเทศไทยต้องเข้มงวดกับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคอย่างถึงที่สุด โดยวันที่ 18 กันยายน ศกนี้  กรมปศุสัตว์และสมาคมฯ จะร่วมกันให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยสูงสุดแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะทรงตัว

  

ไก่เนื้อ : ราคาลดลง

            สัปดาห์นี้แม้ผู้เลี้ยงไก่อิสระจะนำลูกไก่เข้าเลี้ยงไม่มาก แต่ในตลาดก็ยังคงมีไก่ใหญ่ที่เหลือจากการขายสะสมเพียงพอต่อการบริโภค เป็นผลมาจากฝนที่ตกลงอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ทำให้การบริโภคเนื้อไก่ชะลอตัว ส่งผลให้ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อลดลงจากราคากิโลกรัมละ 36 บาท เป็นกิโลกรัมละ 35 บาท

ด้านลูกไก่เนื้อราคาปรับลดลงจากตัวละ 13.50 บาท เป็นตัวละ 12.50 บาท ส่วนลูกไก่ไข่ยืนราคาที่ตัวละ 18.00 บาท

             แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนอ่อน

 

ไข่ไก่ : ราคาทรงตัว

          ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดยังคงสมดุลกับการบริโภค แม้ว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีภาวะฝนตกชุกแทบทุกพื้นที่ก็ตาม โดยราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในท้องตลาดทรงตัวที่ฟองละ 2.60 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว

-----------------------------------------

ที่มา : สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ : 02-766-7343-5
E-mail : [email protected]