แรงขายทำกำไรฉุดราคาน้ำมันดิบดิ่ง2.5%

แรงขายทำกำไรฉุดราคาน้ำมันดิบดิ่ง2.5%

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(13ก.ย.)ตามเวลาสหรัฐ ดิ่งลง 2.5% จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกว่าการทำสงครามการค้าจะฉุดความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  ดิ่งลง 1.62 ดอลลาร์ หรือ 2.5% สู่ระดับ 68.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดให้อุปสงค์น้ำมันลดลง

สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกพุ่งแตะระดับ 100 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งแตะระดับ 32.63 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากซาอุดิอาระเบีย, ไนจีเรีย, ลิเบีย และอิรัก แม้เวเนซุเอลา และอิหร่านลดการผลิต

ไออีเอ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศนอกโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐ

รายงานยังระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะยังคงอยู่ที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า โดยถูกกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงจากกลุ่มประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ในยุโรปและเอเชีย ขณะที่การชะลอตัวในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นผลจากการทำสงครามการค้า และการร่วงลงของค่าเงิน จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในปีหน้า