ORI - ซื้อ

ORI - ซื้อ

Incoming exciting activities

ที่ผ่านมาราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ คาดเป็นเพราะบริษัทยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทจะเปิดโครงการใหม่อย่างหนักหน่วง (เกือบทั้งหมดของแผนทั้งปี) ตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป อีกทั้งแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังก็เติบโตโดดเด่น และ valuation เองหุ้นเทรด PE 7.9 และ 7.2 เท่า ในปี 2018-19 นับว่าปัจจัยบวกมาพร้อมทุกอย่างทั้ง 1) Presales 2) Earnings และ 3) Valuation

3Q18 ยังไม่มีกิจกรรมมากนัก...

แผนการเปิดโครงการใน 3Q18 น้อยกว่าที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยปลายเดือนนี้น่าจะเห็นเพียงการเปิดตัวโครงการ Park พญาไท มูลค่า 4.6 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดจะเห็น take up rate สูงถึง 50% ในช่วงเปิดตัวและจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้สำหรับโครงการ JV Origin 24 mixed-use คาดจะปิดดีลและรับรู้กำไรจาก Share premium ได้ใน 3Q18 นี้

... แต่ 4Q18 จะคึกคักที่สุด

การเปิดตัวโครงการเกือบทั้งหมดน่าจะเกิดขึ้นใน 4Q18 ซึ่งจะมี Park ทองหล่อ (มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท) ในเดือนตุลาคม และแนวราบ Britania อีก 3 โครงการ 4 พันล้านบาท และยังมีโครงการขนาดเล็กอื่นๆ หากอิงตามแผนต้นปี เราคาดจะเป็นโครงการคอนโดขนาดเล็กแบรนด์ Notting Hill หรือ Kensington อีก 1 โครงการ มูลค่าราว 2 พันล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ 4Q18 มีกิจกรรมเปิดตัวและยอดจองซื้อสุงที่สุด

ระยะสั้นปรับเป้าหมายธุรกิจปี 2018-19 ขึ้น …

ผู้บริหารมีการปรับเป้าหมายธุรกิจปี 2018 ขึ้น (ตามคาด) โดยปรับเป้าหมาย Pre-sales ขึ้น 20% เป็น 2.4 หมื่นล้านบาท และปรับเป้าหมายการรับรู้รายได้ขึ้นเป็น 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามที่เราได้ hint ไปก่อนหน้านี้ เราปรับประมาณการกำไรปี 2018-19 ขึ้น 29% และ 13% เป็น 3.6 และ 3.9 พันล้านบาท โดยหลักๆมาจากการปรับมาร์จิ้นขึ้นหลังจากที่เราได้เห็นถึงมาร์จิ้นที่บริษัททำได้ดีมา 2 ไตรมาสติดต่อกัน อนึ่งประมาณการของเรายังไม่รวม dilution จากการจ่ายหุ้นปันผล 2:1 ซึ่งจะ XD 16/10/18 โดยราคาเป้าหมายหลัง XD จะปรับเป็น 18 บาท

… ระยะยาวเป้าหมาย 5 ปี โตต่อเนื่อง

บริษัทเปิดแผนระยะยาว 5 ปี คาดภายในปี 2022 จะมีรายได้ 2.79 หมื่นล้านบาท เติบโตราว 23% CAGR โดยพอร์ตของบริษัทจะเริ่มสมดุลมากขึ้นระหว่างรายได้คอนโดและบ้านแนวราบ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วน (คอนโด: แนวราบ) คือ 90:10 ซึ่งจะลดเหลือ 60:40 ในปี 2022 ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงสินค้าประเภทใดประเภทหนึ่ง อีกทั้งโครงการแนวราบ จะสร้างเร็วโอนเร็ว ซึ่งจะเป็นตัวหนุนให้รายได้มีโอกาสปรับขึ้น  นอกจากนี้ Backlog ที่บริษัทมีในปัจจุบันเรามองว่ามีการกระจายตัวที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะบริษัทมี Backlog ในแบรนด์ High-end และ Luxury อย่าง Knightbridge และ Park อยู่ถึง 75% ซึ่งเป็น segment ที่สามารถโอนได้ต่อเนื่อง