ภายนอกได้ปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐอ่อนค่า ภายในเลือกตั้งเริ่มมีความชัดเจน

ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะสั้น แต่ภาคธุรกิจกังวลถึงผลกระทบของมาตรการจัดเก็บภาษีศุลกากร (tariff) ที่ผลักดันให้ต้นทุนราคาสินค้าภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตามล่าสุด รมว.คลังสหรัฐ ได้ส่งจดหมายไปยังเจ้าหน้าที่จีน เพื่อเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า เงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่า สะท้อนบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายลง

สำหรับตลาดหุ้นไทย คาดตอบรับเชิงบวกหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯพ.ร.ป.เลือกตั้งสส.-การได้มาซึ่งสว.ให้มีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน นำไปสู่กรอบเวลาการเลือกตั้งที่ค่อนข้างชัดเจนในราวเดือน ก.พ.-พ.ค.ปีหน้า (ภายใน 150 วัน) ทั้งนี้การตัดสิทธิ์ไม่ให้รับเลือกตั้งสำหรับผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์ ตามมาตรา 35 กำหนดไว้ที่ 2 ปี จึงคาดว่าไม่ส่งผลให้เกิดการกีดกันผู้สมัคร หรือเป็นประเด็นต่อต้านมากนัก

เราประเมิน SET Index จะเริ่มตั้งหลัก-ฟื้นตัวได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มสูงขึ้นรวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติบางส่วนมีโอกาสไหลกลับ ส่งผลบวกต่อหุ้นเน้นการบริโภคในประเทศและได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ทั้งธนาคาร ค้าปลีก รับเหมา ได้แก่ BBL, SCB, CPALL, BJC, ROBINS, CK, STEC, AMATA, AP, SPALI, BCH, CHG ขณะที่กลุ่มพลังงาน คาดได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นและสถานการณ์เฮอริเคน เราชอบ PTT, PTTEP และกลุ่มพลังงานไฟฟ้า/ทดแทน EA*, CKP*, EGCO, GUNKUL*, PSTC*

Investment Theme หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ที่เน้นลูกค้าในประเทศ CHG, BCH /

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดมีแรงทำกำไรสลับ กดดันตลาดครึ่งแรกเดือนก.ย. แกว่งลงทดสอบ 1660-1680 จุด ก่อนฟื้นตัวขึ้น โดยโมเมนตัมของตลาดจะพลิกกลับมาบวก หากปรับขึ้นเหนือ 1703 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ STEC, GUNKUL* / เก็งกำไร CKP* (เป้า 4.50 ตัดขาดทุน 4.20), SGF* (เป้า 2.20 ตัดขาดทุน 1.80)

แนวรับ 1670 / แนวต้าน : 1688-1695 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

คลังแตะเบรก ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย – รมว.คลังแนะ ธปท.ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจยังไม่พร้อม แต่ย้ำไม่แทรกแซงการตัดสินใจของ ธปท.

CPN – เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ GLAND ในสัดส่วน 50.43% ที่ราคา 3.10 บาท รวม 1 หมื่นล้านบาท และเตรียมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือ 49.5% เพื่อเพิกถอนจากตลาดฯ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตระยะยาว

MACO-W2 จะเริ่มทำการซื้อขาย 14 ก.ย.61 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ์ 1375 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ์ 1:1 ที่ราคาใช้สิทธิ์ 2.10 บาท ใช้สิทธิ์ 30 ก.ย.63-27 ส.ค.64

Apple – แอปเปิลเปิดตัวมือถือใหม่ iPhone XR, iPhone Xs และ iPhone Xs Max โดยคุณสมบัติที่สำคัญคือการทำงานที่เร็วขึ้นของชิป แบตเตอรี่ที่ทนขึ้น และการรองรับ 2 ซิม (e-sim สำหรับรุ่นที่ขายทั่วไป และ 2 nano-sim สำหรับรุ่นที่ขายในจีน) อย่างไรก็ตามราคาเปิดตัวที่ 749, 999 และ 1099 เหรียญสหรัฐฯ ถือว่าสูง และอาจทำให้การตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร เพิ่มความระวังการเก็งกำไรหุ้นมือถือ COM7*, SPVI* และ JMART* เนื่องจากปีนี้ไม่มีมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” มาสันบสนุนดังเช่น 2 ปีก่อนหน้า และควรตั้งจุดตัดขาดทุน/ขายทำกำไร

ประเด็นติดตาม: 13 ก.ย. –ประชุมนโยบายการเงิน ยุโรป-ตุรกี-อังกฤษ, 19 ก.ย. – ประชุม กนง.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)