ตร.สนธิกำลังทหารบุกทลายบ่อนไฮโล รวบ 47 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์เล่น เงินสดกว่า 3 หมื่น
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 12 ก.ย. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว พร้อมด้วย พ.ต.ราชวัติ นิกรกูล รองผบ.ร้อย.รส.ส.พัน.2 เขตสายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อยรส. ส.พัน2 เขตสายไหม นำกำลังบุกทลายบ่อนการพนัน ไฮโล ภายในร้านบ้านไม้เทียม ปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 64 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอยสุขาภิบาล 5 แยก 64 ลักษณะเป็นเพิงมีผนังรอบด้านอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางเมตร ดัดแปลงเป็นร้านอาหารชื่อบ้านไม้เทียม ภายในพบนักพนันชายหญิงกำลังเล่นพนันกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดกิจกรรมทั้งหมด และสามารถควบคุมตัวนักพนันได้ทั้งหมดจำนวน 47 คน แบ่งเป็นชาย 32 คน หญิง 15 คน พร้อมของกลาง ถ้วยไฮโล 7 ใบ ฝาครอบ 3 อัน ลูกเต๋า 296 ลูก ไม้เก็บ 20 อัน ไพ่ 1 สำรับ ใบกระท่อม 91 ใบ เงินสด 31,700 บาท มีนายพรชัย นิลประยูร อายุ 48 ปี รับเป็นเจ้าของบ้านและเจ้ามือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนักพนันทั้งหมดไปยังสน.คันนายาว
จากการสอบสวนนายพรชัย รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้สถานที่ตรงนี้เคยเป็นร้านอาหาร แต่ได้ปิดตัวลงไปนานกว่า 1 ปีแล้ว ตนจึงมาเช่าเพื่อเปิดหลังจากนั้นได้มาลักลอบเปิดให้เล่นพนันไฮโล มาได้ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเจ้าหน้าที่มาจับกุมแล้ว 1 ครั้ง แต่ก็กลับมาเปิดใหม่จนกระทั้งมาถูกจับกุมอีกครั้ง
พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับรายงานว่าบริเวณร้านอาหารแห่งนี้ได้มีการลับลอบเปิดเป็นบ่อนการพนัน แต่ด้วยกำลังพบที่น้อยเนื่องจากกำลังส่วนใหญ่ติดภาระกิจ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อยรส. ส.พัน2 เขตสายไหม นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมนักพนันได้ 47 คนพร้อมของกลางอุปกรณ์การเล่น และเงินสดจำนวน 31,700 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมบ่อนแห่งนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ได้นักพนันเพียง 7 คนเท่านั้น ส่วนใบกระท่อมที่พบเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของหลังจากนี้จะทำการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ่อนว่าใครนำมา หากพบว่าในนำมาก็จะแจ้งข้อกล่าวหามีพืชกระท่อมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติเพิ่ออีก 1 ข้อหา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายสมพร จัดให้มีการพนันไฮโล พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตส่วนนักพนันทั้ง 47คนแจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน ( ไฮโล ) ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป