ก.อุตฯ ผลักดันเกษตรแปรรูป ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคง

ก.อุตฯ ผลักดันเกษตรแปรรูป ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคง

กระทรวงอุตสาหกรรม ผลักดันเกษตรแปรรูปช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ ผู้ประกอบการโรงงานร่วมลงนาม MOU ซื้อทุเรียนชาวสวนจังหวัดชายแดนใต้ปีนี้เกือบ 50,000 ตัน มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 เวลา 08.30 น. ณ โถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงสินค้าเกษตรแปรรูป ของบริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด

โอกาสนี้ ดร.พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวรายงานถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ในระยะ 20 ปี ได้กำหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพทางการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ สร้างงานให้แก่ประชาชน และสังคมให้มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (First S- Curve and New S-Curve) โดยอุตสาหกรรมกลุ่มเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและความพร้อม ทั้งในด้านของวัตถุดิบและเกี่ยวข้องกับเกษตรกรโดยตรง โดยเป็นการพัฒนาจึงมุ่งสู่การเป็นฐานการผลิตเกษตรแปรรูปและขยายช่องทางการตลาด ให้เข้าถึงตลาดต่างประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ตราสินค้าไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลควบคู่กับการสร้างมาตรฐานการผลิต และมีการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัดปทุมธานี โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ มีสถานประกอบการที่เป็นโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเข้าร่วม 5 ราย สำหรับรายที่มาแสดงสินค้าเกษตรแปรรูปในครั้งนี้ คือ บริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด เป็นหนึ่งในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ โดยเลือก 2 แผนงานมาใช้ในการพัฒนา คือ 1.แผนการปรับปรุงและพัฒนางาน 2. แผนการลดต้นทุนด้านพลังงาน ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ 6.85 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้จังหวัดปทุมธานี ได้ประสานให้บริษัท ควีน โฟรเซ่น ฟรุต จำกัด รับซื้อผลไม้จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส โดยมีการลงนาม MOU กับเกษตรกร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ซึ่งสหกรณ์การเกษตรจังหวัดยะลา เป็นตัวแทนลงนามฝ่ายเกษตรกร และเป็นผู้รวบรวมผลผลิต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว

ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ขายทุเรียนได้ในราคาต่ำ เนื่องจากไม่มีผู้เข้าไปรับซื้อ ประกอบกับทุเรียนในถิ่นนี้จะมีปัญหาหนอนทุเรียนเจาะทำลายทำให้ขายได้ราคาต่ำ แต่บริษัทดังกล่าวได้เข้าไปรับซื้อทุเรียนซึ่งเป็นผลผลิตของปีนี้เกือบ 50,000 ตัน จนสามารถยกระดับราคาหน้าสวนจากกิโลกรัมละ 40 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60-80 บาท คิดมูลค่าในการซื้อขายทุเรียนประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกษตรกรพึงพอใจเป็นอย่างมาก จากความสำเร็จในครั้งนี้ ทุเรียนและผลไม้ตกเกรด อาทิ ผลไม้ที่สุกหอมเกินจะนำมาแปรรูปเพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด อาทิ ทำเป็นข้าวเหนียวทุเรียน ไอศกรีม ทุเรียนกวนเคลือบช็อคโกแลต และอีกหลายๆ เมนู ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะชาวจีนที่นิยมมาก มียอดขายไปจีนมากกว่าร้อยละ 90 การที่กระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัดปทุมธานี ได้ยื่นมือเข้ามาให้การสนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรนี้ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรมกลุ่มนี้ ที่จะสามารถรองรับผลผลิตจากชาวสวนได้มากยิ่งขึ้น และนโยบายของรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือในลักษณะนี้ เป็นนโยบายที่เข้าถึงเกษตรกรโดยตรงและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมให้ขยายการรับซื้อผลิตผลจากเกษตรกรเพื่อนำมาแปรรูปอีกทั้งจะช่วยให้ราคาสินค้าเกษตรไม่ตกต่ำ และนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรที่ยั่งยืนต่อไป