พณ. เผยผลระบายข้าวยุคคสช.ได้เงิน1.46แสนล.

พณ. เผยผลระบายข้าวยุคคสช.ได้เงิน1.46แสนล.

พาณิชย์ เผยผลการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล คสช. ได้เงินเข้าคลัง กว่า 1.46 แสนล้านบาท ลดภาระค่าใช้จ่ายรัฐได้ 9.3 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลคสช. ตลอด 4 ปีของการบริหารประเทศ ปริมาณ 17.76 ล้านตัน ว่า สามารถประมูลขายนำเงินเข้าคลังได้ทั้งหมด 146,176 ล้านบาท และสามารถหยุดภาระการเก็บรักษาข้าวและการบริหารจัดการที่ผ่านมาไว้ที่จำนวน 93,600 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ทางกรมการค้าต่างประเทศ จะสรุปตัวเลขนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข.รับทราบ ก่อนส่งให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีรับโครงการจำนำข้าว กระทรวงการคลัง สรุปตัวปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวต่อไป

สำหรับ ข้าวที่ยังไม่มีการส่งมอบมีปริมาณ 655,000 ตัน ซึ่งเป็นข้าวที่บริโภคทั่วไป โดยผู้ที่ชนะประมูลไม่มารับมอบไป โดยติดปัญหาหรือให้เหตุผลในเรื่องของคุณภาพ และข้าวผิดชนิด ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นคู่สัญญา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. อาจจะต้องติดตาม และเมื่อสรุปผล กรมการค้าต่างประเทศเองอาจจะต้องพิจารณาและนำหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะทำการเปิดระบายหรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอการหรือและสรุปปัญหาที่เกิดขึ้น

“ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้ที่ชนะประมูลต้องดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากในสัญญาระบุแล้วว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากไม่มารับมอบผู้ชนะประมูลก็ต้องดำเนินการรับผิดชอบ รวมทั้งค่าปรับที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มารับมอบ”

ส่วนกรณีที่กังวลว่าทำไมการระบายข้าวต้องแบ่งประเภทเพื่อการระบาย ก็เนื่องจากว่า เพราะจากการลงพื้นที่สำรวจของสายตรวจตั้งแต่ต้นพบว่า ข้าวมีความแตกต่างกันจริง 1 คลังมีข้าวในโกดังกว่า 10 ชนิดข้าว หากจะแยกกันจริงๆตามชนิดและประเภท คงต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคงมีมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากรัฐบาลต้องแบกรับภาระก็จะสูงมาก และการระบายข้าวที่ผ่านมาการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำอย่างรัดกุม รอบคอบ