'กรณ์' ยันหนุน 'อภิสิทธิ์' นั่งหัวหน้าปชป.

'กรณ์' ยันหนุน 'อภิสิทธิ์' นั่งหัวหน้าปชป.

หนุน "อภิสิทธิ์" นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ในเดือนพ.ย.นี้ เชื่อเป็นนายกฯที่ดีได้

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ในเดือน พ.ย.นี้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันแม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะยกเลิกการทำไพรมารีโหวต แต่ก็จะเปิดโอกาสให้สมาชิกเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ดี เพื่อสมาชิกจะได้มีโอกาสกำหนดอนาคตและแสดงความเป็นเจ้าของพรรค ถือว่าเป็นการตอกย้ำ ความเชื่อในระบอบประชาธิปไตยของพรรค ว่า ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ ประชาธิปัตย์เป็นของสมาชิกทุกคน ซึ่งต่างจากพรรคอื่นๆ

นายกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวยังสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป หากนายอภิสิทธิ์ สมัครรับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคอีกก็จะสนับสนุน เพราะมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์สามารถเป็นนายกฯที่ดีได้อีกครั้ง ตนจึงมีความตั้งใจจะช่วยให้นายอภิสิทธิ์ได้กลับมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคอีกครั้ง

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะเป็นการยั้งเสียงสมาชิกโดยตรง ต่างจากที่ผ่านมาซึ่งฟังจากฐานสาขาพรรค แต่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะโทรศัพท์มือถือนั้นเอื้อให้ทุกคนแสดงความเห็นได้อย่างสะดวก โดยสาขาพรรคหรือ ส.ส.จะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคตามการยั้งเสียงดังกล่าว ปัจจุบันประชาชนยืนยันการเป็นสมาชิก ปชป.ประมาณ 1 แสนคน เมื่อ คสช.คลายล็อก ก็จะหาสมาชิกเพิ่มเติม เพราะการมีสมาชิกมาก การยั้งเสียงก็จะยิ่งสะท้อนความต้องการของประชาชน อย่างไรก็ตาม ต้องรอการแก้ไขข้อบังคับพรรคอีกครั้งว่าจะออกมาอย่างไร

เมื่อถามว่าเสียงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนนายอภิสิทธิ์อยู่หรือไม่ เพราะมีข่าวว่าอาจสนับสนุบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯและคนอื่นๆ นายกรณ์ กล่าวว่า เดี๋ยวก็รู้ ป่วยการที่จะมาตั้งคำถามวันนี้ ให้รอดูวันที่ความจริงปรากฏ ว่าใครจะลงสมัครบ้าง ซึ่งเรายังไม่รู้เลยว่านายอภิสิทธิ์จะลงหรือไม่ จึงต้องรอดูว่าสมาชิกจะสนับสนุนใคร

เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่าคนรุ่นใหม่ในพรรคต้องการเสนอชื่อนายอลงณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรค ชิงตำแหน่งกับนายอภิสิทธิ์ นายกรณ์ กล่าวว่า คิดว่ายังไม่มีการคุยกันอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพรรคเปิดให้มีการแข่งขัน ก็ยินดีที่จะให้มีการแข่งขันเกิดขึ้น ทุกคนมีสิทธิ์แข่งขันได้ เพราะเชื่อว่าการแข่งขันเป็นส่วนสำคัญที่จะรักษาประโยชน์ของประเทศ การแข่งขันอย่างโปร่งใส่และเป็นธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี