นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

หลังกระทรวงแรงงานเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาด

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธ.ค.นี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของแรงงานที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี

ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 25-26 ก.ย. ซึ่งตลาดการเงินคาดการณ์กันว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย.

ซีเอ็มอี กรุ๊ป ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือเฟดวอทช์ วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 58% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 52% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 10 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.4% จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนส.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 3,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ลดลงสู่ระดับ 62.7%