'สนธิรัตน์' เตรียมหารือรัฐมนตรีการค้ามาเลเซียคนใหม่

'สนธิรัตน์' เตรียมหารือรัฐมนตรีการค้ามาเลเซียคนใหม่

“สนธิรัตน์” เตรียมหารือรัฐมนตรีการค้ามาเลเซียคนใหม่ สานสัมพันธ์เศรษฐกิจกับผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซีย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดหารือกับนายอิกนาเทียส ดาเรลล์ ไลคิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซีย ในวันที่ 7 กันยายน 2561 ในการเดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สานความสัมพันธ์กับผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซีย ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ตุน ดร. มหาธีร์ โมฮัมหมัด รวมทั้งหารือแนวทางการขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับมาเลเซียและภายในภูมิภาค



นายสนธิรัตน์ เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้จะเป็นการพบกันครั้งแรกกับ นายอิกนาเทียส ดาเรลล์ ไลคิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซียคนใหม่ในรัฐบาลของ ตุน ดร. มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัดซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จะใช้โอกาสนี้หารือถึงทิศทางการวางนโยบายด้านเศรษฐกิจของมาเลเซียทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะการสร้างความร่วมมือในกรอบที่ไทยและมาเลเซียเป็นสมาชิกร่วมกัน เช่น กรอบอาเซียน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยให้ความสำคัญกับการรักษาบทบาทนำของอาเซียน เพื่อผลักดันให้การเจรจา RCEP สำเร็จโดยเร็ว รวมทั้งจะขอให้มาเลเซียสนับสนุนไทยในช่วงการเป็นประธานอาเซียนปี 2562 และร่วมผลักดันประเด็นด้านเศรษฐกิจต่างๆ ที่ไทยให้ความสำคัญ นอกจากนี้คาดว่าจะมีการหารือกันถึงประเด็นสำคัญอื่นๆ อาทิ การจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 ซึ่งมาเลเซียมีกำหนดเป็นเจ้าภาพ การร่วมมือกันผลักดันการค้าชายแดน   ซึ่งเป็นการค้าที่มีความสำคัญต่อไทยและมาเลเซียโดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 3 ใน 4 ของการค้ารวมระหว่างกัน เป็นต้น

ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) การค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 23,287.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในปี 2560 การค้ารวมไทย-มาเลเซียมีมูลค่า 22,107.41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.27 โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ามูลค่า 1,402.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูป และเคมีภัณฑ์ ในขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และแผงวงจรไฟฟ้า