สั่งปิดโรงแรมไม่ขออนุญาตกว่า 200 แห่ง จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว

สั่งปิดโรงแรมไม่ขออนุญาตกว่า 200 แห่ง จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว

สั่งปิดโรงแรมอ.เมืองกระบี่ ไม่ขออนุญาตกว่า 200 แห่ง หลังทหารร่วมปกครองและท้องถิ่นลงตรวจตามนโยบายคสช.ในการรักษาความสงบและจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว

จากกรณีที่รัฐบาล คสช. โดยทางทหารได้มีนโยบายในการจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวให้ถูกต้อง ซึ่งจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกับกองทัพภาค 4 และหน่วยงานต่างๆ ได้เข้าดำเนินการในพื้นที่สำคัญ ประกอบด้วยเกาะพีพี อ่าวนาง และตัวเมืองกระบี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เกาะพีพี ได้มีการจับกุมโรงแรมโฮสเทลไปแล้วกว่า 100 แห่ง ส่วนที่ตัวเมืองกระบี่ก็ได้ดำเนินการตรวจต่อเนื่อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน

นายสุพจน์ แสงศิลาวุฒิกุล ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ รับผิดชอบการจับกุม กล่าวว่า สำหรับในตัวเมืองกระบี่นั้นได้มีการเข้าตรวจจำนวน 340 แห่ง พบว่ามีถูกต้องทั้ง พรบ.โรงแรม และ พรบ.ควบคุมอาคาร เพียง 82 แห่งเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 258 แห่ง ล่าสุดนี้ศาลได้พิพากษาแล้วจำนวน 225 แห่ง โดยพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นโทษปรับ แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่มีโทษจำคุก แต่ให้รอลงอาญาไว้ ส่วนที่เหลืออีก 33 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหานำส่งศาลพิพากษา ทั้งนี้ ยังพบว่า มีบางแห่ง แม้เจ้าหน้าที่จะได้สั่งปิดแล้ว แต่พบว่าได้มีการฝ่าฝืนเปิดอยู่ ก็เตรียมที่จะเข้าตรวจสอบจับกุมอีกรอบ ซึ่งจะมีโทษจำคุก และปรับวันละ 10,000 บาท

สำหรับความผิดของโรงแรมที่พบนั้น ประกอบด้วย ไม่ได้ขออนุญาตเปิดโรงแรม โฮสเทล การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีทางหนีไฟ ระบบดับเพลิง เป็นต้น ซึ่งเมื่อตรวจสอบก็จะพบว่าเข้าข่ายความผิด 2 พรบ.คือ พรบ.โรงแรมที่ไม่ขออนุญาต และ พรบ.ควบคุมอาคาร ซึ่งในส่วนนี้ ทางเทศบาล หรือท้องถิ่นเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกับทางฝ่ายปกครอง ตาม พรบ.โรโรงแรม ซึ่งยอมรับว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินการมานั้น มีโรงแรมที่ถูกต้องในกระบี่น้อยมาก ปัญหาส่วนใหญ่คือ เมื่อผู้ประกอบการมาขออนุญาตจะติดปัญหาเรื่องการก่อสร้าง เมื่อไม่มีทางหนีไฟก็เปิดเป็นโรงแรมที่พักไม่ได้ แต่ผู้ประกอบการไม่สนใจ ยังเปิดกิจการต่อ