'ครูวิภา' ปิดหนี้กยศ.แทนลูกศิษย์แล้ว!

'ครูวิภา' ปิดหนี้กยศ.แทนลูกศิษย์แล้ว!

กยศ.เผย "ครูวิภา” นำเงิน 2.7 แสนบาท ชำระหนี้คืนกยศ.แทนลูกศิษย์แล้ว ชี้กรณีดังกล่าวส่งผลลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันกยศ.ตื่นตัวช่วยกันติดตามหนี้มากขึ้น ชี้ปีนี้มียอดการขอไกล่เกลี่ยหนี้สูงถึง 80%

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.61 นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) กล่าวว่า จากกรณีที่ครูวิภา บานเย็น ผอ.รร.บ้านห้วยน้อย ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดิน เนื่องจากได้เป็นผู้ค้ำประกัน ให้แก่นักเรียนที่เป็นผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตั้งแต่ปี 2541-2542 จำนวน 60 ราย แต่มีลูกศิษย์ที่ค้างชำระหนี้ กยศ. จนถึงขั้นบังคับคดีกับครูที่เป็นผู้ค้ำประกันนั้น เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมาครูวิภา ได้นำเงินจำนวน 270,000 บาท เพื่อมาชำระหนี้คืนกยศ.แทนลูกศิษย์ไปเรียบร้อย ทำให้เวลานี้ครูวิภาหลุดพ้นจากการเป็นผู้คำประกันหนี้กยศ.แล้ว ส่วนครูวิภาจะไปติดตามหนี้คืนจากลูกศิษย์อย่างไรก็เป็นเรื่องของครูวิภาไม่เกี่ยวกับกยศ.แล้ว

ทั้งนี้ จากกรณีครูวิภาทำให้ลูกหนี้กยศ.และผู้ค้ำประกัน กยศ.จำนวนมาก ตื่นตัว และช่วยกันติดตามท้วงหนี้กยศ. ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก และกยศ.ต้องขอบคุณสื่อต่าง ๆที่ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูล จนทำให้ลูกหนี้เข้ามาติดต่อกยศ. โดยบางคนก็เข้ามาขอผ่อนผันการชำระหนี้ ขณะที่บางคนก็เข้ามาแจ้งให้ทราบว่ามีปัญหาต่าง ๆจนทำให้ไม่สามารถชำระเงินได้ รวมทั้งยังมีผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาที่กยศ.เพื่อติดต่อเรื่องหนี้จำนวนมากจากเดือนละ 5หมื่นคน เป็นเดือนละ 2แสนคน อย่างไรก็ตาม กยศ.ทราบดีว่าทุกคนไม่สามารถที่จะนำเงินมาปิดบัญชีได้หมด แต่อย่างน้อยก็ทำให้กยศ.มีข้อมูลผู้ค้างชำระหนี้ รวมถึงเหตุผลต่างๆที่ไม่มาชำระหนี้ ซึ่งกยศ.จะได้หามาตรการในการดูแลและพยายามให้ผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระหนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ลูกหนี้กยศ.ตระหนักและตื่นตัวการใช้หนี้ กยศ.มากขึ้น และแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยมียอดมาชำระหนี้คืน กยศ.แล้ว 24,000 ล้านบาท จากยอดค้างชำระหนี้ 4 แสนล้านบาท จึงทำให้กองทุนฯมีเงินหมุนเวียน เพื่อมาบริหารจัดการกองทุนโดยไม่ต้องของบฯจากรัฐบาลมา 2 ปี แล้ว อีกทั้งในปีนี้มียอดการขอไกล่เกลี่ยหนี้สูงถึง 80 % หมายความว่ามีผู้ถูกฟ้องร้อง 1แสนคน มาขอไกล่เกลี่ย 8 หมื่นคน