เขื่อนขุนด่านฯ เบรคน้ำ หลีกทางน้ำป่าไหลหลาก

เขื่อนขุนด่านฯ เบรคน้ำ หลีกทางน้ำป่าไหลหลาก

เขื่อนขุนด่านฯ เบรคน้ำในเขื่อน หลีกทางน้ำป่าไหลหลากด้านท้ายเขื่อน ลดผลกระทบแม่น้ำนครนายก

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสภาพฝนที่ตกชุกอย่างต่อเนื่อง บริเวณเหนือน้ำตกนางรอง น้ำตกวังตะไคร้ และน้ำตกสาลิกา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำนครนายกที่อยู่ด้านท้าย เขื่อนขุนด่านปราการชล ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกที่สถานีวัดน้ำ NY.1B บ้านเขานางบวช อ.เมือง จ.นครนายก เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำด้วยการชะลอและลดการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ลงสู่แม่น้ำนครนายกให้น้อยลง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา(4 ก.ย. 61) เพื่อหลีกทางให้น้ำจากลำห้วยต่างๆ ไหลผ่านสถานี NY.1B ไปก่อน เป็นการลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำนครนายก รวมไปถึงในเขตเทศบาลเมืองนครนายก โดยไม่เพิ่มภาระให้กับพื้นที่น้ำท่วมเดิมบริเวณ อ.บ้านนา และ อ.องครักษ์

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล ปัจจุบัน(4 ก.ย. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 197 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 88 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 27 ล้าน ลบ.ม. ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำนครนายกเช้าวันนี้(4 ก.ย. 61) ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณบ้านเขานางบวช อ.เมือง จ.นครนายก ประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร แนวโน้มน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำจะไหลต่อมายังตัวเมือง จ.นครนายก ขณะนี้ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 60 เซนติเมตร ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งบริเวณเขตเทศบาลเมืองนครนายกแต่อย่างใด และเมื่อปริมาณน้ำดังกล่าวได้ไหลผ่านตัวเมืองไปแล้ว กรมชลประทาน จะทำการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้น(Spillway)ของเขื่อนขุนด่านปราการชลตามเดิม นับว่าเป็นการใช้อาคารชลประทานอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกครั้งหนึ่ง สามารถช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนได้อย่างแท้จริง