‘สามย่านมิตรทาวน์’ทุ่ม200ล.สร้างรับรู้แบรนด์

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ ผู้บริหารโครงการมิกซ์ยูส “สามย่านมิตรทาวน์” กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างโครงการสามย่านมิตรทาวน์ คืบหน้ากว่า 50% มั่นใจว่าจะสามารถเปิดบริการได้ตามกำหนดเดือน ก.ย.2562 นับเป็นมิกซ์ยูสรายแรกบนถนนเศรษฐกิจใหม่ “พระราม 4”

การแจ้งเกิดโครงการมิกซ์ยูสบน ถ.พระราม 4 เชื่อว่าจะปลุกเศรษฐกิจการค้าของย่านพระราม 4 ให้มีความคึกคักอย่างมากนับจากนี้ มั่นใจว่าตลาดไม่โอเวอร์ซัพพลาย และไม่มีผลกระทบต่อสามย่านมิตรทาวน์ ที่มีจุดแข็งของทำเลที่มีศักยภาพและความชัดเจนของจุดขาย

“เราเปิดบริการเดือน ก.ย.ปีหน้า เร็วขึ้นจากเดิมจะแล้วเสร็จปลายปี เป็นจังหวะที่ดี โดยองค์ประกอบความครบวงจรของสามย่านมิตรทาวน์ โดยเฉพาะศูนย์แสดงสินค้าใจกลางเมืองที่จะมารองรับโอกาสจากการปิดปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกด้วย”

ทั้งนี้ ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 200 ล้านบาทในการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ผ่านการสื่อสารและกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

สามย่านมิตรทาวน์  ได้รับสิทธิ์พัฒนาที่ดิน 14 ไร่ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีระยะเวลาเช่า 30 ปี หรือคิดเป็นพื้นที่ใช้สอยกว่า 2.2 แสนตร.ม. มูลค่าลงทุน 9,000 ล้านบาท ประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีก ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงาน  พร้อมกันนี้ได้ลงทุน 300 ล้านบาท ทำทางเชื่อมตรงจากรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีเข้าสู่ตัวโครงการบริเวณชั้นใต้ดินอีกด้วย

สำหรับพื้นที่ค้าปลีกราว 3.6 หมื่นตร.ม.คิดเป็นสัดส่วน 30% ของพื้นที่ทั้งหมด พัฒนาในคอนเซปต์ “Urban Life Library”  หรือคลังแห่งอาหารและการเรียนรู้ เน้นออกแบบให้รองรับการค้าปลีกยุค 4.0 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มาเดินชอปปิงเพียงอย่างเดียว แต่มาเพื่อใช้ชีวิต ซึ่งจะมีจุดขายพื้นที่ค้าปลีกเปิดบริการ 24 ชั่วโมง อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ตคอนเซปต์ใหม่โดยบิ๊กซี นอกจากนี้จะมีฟิตเนส ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์การเรียนรู้ เพื่อให้นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการในการอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ประชุม ติดต่องานได้ 24 ชั่วโมง

โซนอาคารสำนักงานมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ “Intelligent Office Tower” สูง 31 ชั้น พื้นที่เช่ารวม 5 หมื่นตร.ม. หรือ 30% ของโครงการเช่นกัน จะพัฒนาเป็นอาคารที่ใช้งานโดยใช้ระบบอัจฉริยะเข้ามาเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ในอาคารเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากขึ้น 

ส่วน โซนที่พักอาศัย “Neo Explorer Living Platform” ทั้งโรงแรมและคอนโดมิเนียม 33 ชั้น คิดเป็น 15% ของโครงการ รวม 516 ยูนิต และโรงแรม 104 ห้อง

ปัจจุบันมีการจองพื้นที่แล้ว 40% ของพื้นที่เช่ารวม หรือ มียอดจองพื้นที่เช่าสำหรับผู้เช่าหลักครบถ้วนแล้ว สำหรับพื้นที่เช่าของผู้เช่ารายย่อยจะเริ่มเปิดให้จองปลายปีนี้ สำหรับคอนโดมิเนียม เปิดจองกลางปีหน้า