เมียชาวกัมพูชาถูกที่ 1 ผัวไทยเซ็นสลักจนเป็นเรื่อง!

จากกรณีเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย. ร.ต.อ.สุเชษฐ์ เทพชารี รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจาก นาง ฮื่น ชอง อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา อยู่บ้านเลขที่ 139/3 ม.4 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง อาชีพเป็นแม่บ้าน ได้เดินทางมาพร้อมกับสามี นายไพฑูรย์ ทองแดง อายุ 39 ปีและลูกสาว อาชีพ เป็นหัวหน้าคนงานบริษัทผลิตเครื่องบินเล็ก เครื่องร่อน ซอยสองพี่น้อง ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อลงบันทึกประจำวันหลังทราบว่าได้ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ของ วันที่ 1 ก.ย.2561 ชุดที่ 04 หมายเลข734510 เป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท

นางฮื่น ชอง เล่าว่า ก่อนหน้าวันสลากกินแบ่งรัฐบาทออก 5 วัน ได้ไปห้างแสงทองซุปเปอร์มาเก็ต ถ .ราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ซื้อของเครื่องใช้ภายในกันทั้งครอบครัว หลังจากซื้อของเสร็จได้แวะเห็นแม่ค้าจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ขายอยู่ทางออก จึงได้มองเห็นว่าบนแผงมี ลอตเตรี่มีซ้อนกันอยู่ จำนวน 3 ใบ ตนเองได้ซื้อและดึงใบกลางออกมา 1 ใบ เก็บใส่กระเป๋าตังค์ไว้ แล้วกลับบ้าน จนกระทั่ง ผลประกาศรางวัลที่ 1 ออกมาตรงกับเลขที่ตนซื้อมาจากหน้าห้างดีใจสุดขีด รีบโทรศัพท์บอก นายไพฑูรย์ สามี หลังจากรู้ว่าภรรยาโดนรางวัลใหญ่ รับเดินทางกลับบ้านขอดู และไม่รอช้าหยิบปากกาสลักชื่อ นามสกุล ของตนเองทันที แต่นาง ฮื่น ถามว่า ตนเองก็มีพาสปอร์ตทำไมถึงได้รีบเซ็นชื่อใส่เข้าไป ทำให้ทะเลาะกัน นางฮื่นบอกสามีว่า พรุ่งนี้เช้า 2 ก.ย.รีบเดินทางมาแจ้งตำรวจและลงชื่อตนเองเป็นคนซื้อสลาก ด้วยความไม่ไว้วางใจในตัว นายไพฑูรย์ สามี บอกกับเจ้าหน้าตำรวจ ลงบันทึกประจำวัน

ความคืบหน้าวันที่ 3 กย. เวลา 10.00น. นายไพฑูรย์ ทองแดง อายุ 39 ปี จ.ระยอง พร้อมด้วย นางฮื่น ชอง อายุ 38 ปี ภรรยา ได้มาทำบุญที่วัดเนินพระ ต.เนินพระ อ.เมือง ระยอง กราบไหว้พระที่วัดปิดทอง เคาะระฆัง

นางฮื่น ชอง กล่าวว่าวันนี้มาส่งลูกสาวอายุ 6 ปี เข้าเรียน เข้าเรียนหนังสือแล้วได้กราบไหว้พระร่วมกับสามีทำให้สบายใจ นอกจากนั้นยังต้องทำบุญอีก 4 ที่ ที่ทำงานสามีผลิตเครื่องบินร่อนเล็ก สามีเป็นหัวหน้างาน ซอยสองพี่น้อง กับ ที่ออกกำลังกาย จีซี มาบตาพุด ไหว้ที่บ้านพัก และที่ทำงานของตนอีกแห่ง การซื้อลอตเตรี่ ปกติไม่ค่อยได้ซื้อพอดีตกงานมาได้ 1 เดือนจึงซื้อเสี่ยงโชคแค่ใบเดียว ไม่ได้ฝันหรือลางสังหรณ์ เงินที่ถูกจะไว้ซื้อบ้านให้ลูกสาวได้อยู่เป็นหลักมั่นคงและไว้ใช้จ่าย หนี้สินไม่ได้มี ตนทำงานมีพาสสปอร์ต ช่วงนี้ว่างงาน ตอนที่ถูกดีใจมากทำอะไรไม่ถูก ส่วนเรื่องที่ตนไปบอกกับสามี กำลังทำงานที่โรงงาน พอมาถึงรีบเซ็นชื่อด้านหลังเลย ในตอนแรกก็โมโหโกรธต่อว่ากันมากมาย แต่เมื่อได้คุยกันด้วยเหตุและผลเข้าใจแล้วไม่โกรธแต่ ตนเป็นผู้เก็บสลากไว้

นายไพฑูรย์ ทองแดง เผยว่าเรื่องที่ไปเซ็นชื่อด้านหลัง ตนดีใจมากนึกอะไรไม่ออกสิ่งแรกต้องสลักชื่อไว้ที่สลาก ก่อนพาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทำบุญส่วนเรื่องการขึ้นเงินก็ต้องแล้วแต่ภรรยาการเซ็นชื่อเราก็คิดว่าเป็น สามีภรรยาก็เหมือนกันคนเดียวกัน และผมก็กำลังคิดที่จะจดทะเบียนสมรสให้เขาด้วยเป็นหลักประกันความมั่นคงทางครอบครัว เรื่องการทำงานดำเนินชีวิตก็ยังทำต่อไป