'กัลฟ์' จ่ายไฟกฟผ.126เมก ลุ้นสัปดาห์นี้เซ็น 'โอมาน'

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทกัลฟ์ บีแอล จำกัด หรือ GBL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทและเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ บีแอล ได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2561 ภายใต้ประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (Small Power Producer หรือ SPP)

ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ บีแอล ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จ.พระนครศรีอยุธยา มีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งจำนวน 126.8 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำติดตั้งจำนวน 10 ตันต่อชั่วโมง โครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. จำนวน 90 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี และมีสัญญาระยะยาวเพื่อจำหน่ายกำลังไฟฟ้าและไอน้ำส่วนที่เหลือให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม

บริษัทกัลฟ์ บีแอล จำกัด เป็นโครงการโรงไฟฟ้าเอสพีพีก๊าซธรรมชาติโครงการที่ 7 จากจำนวนโครงการเอสพีพีทั้งหมด 12 โครงการภายใต้กลุ่มบริษัทกัลฟ์เอ็มพี จำกัด(GMP)ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,563.4 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำติดตั้งรวม 225 ตันต่อชั่วโมง ทั้งนี้โครงการไฟฟ้าเอสพีพีที่เหลืออีก 5 โครงการจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามกำหนดภายในระหว่างเดือนพ.ย.2561 ถึง ก.ค.2562
ปัจจุบันกัลฟ์มีโครงการในประเทศ 28 โครงการ กระจาย 9 จังหวัด จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งหมดภายในปี 2567 และเมื่อรวมกับที่เปิดดำเนินการไปแล้วทั้งหมด 11,125 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของของบริษัท 6,329 เมกะวัตต์

ส่วนในต่างประเทศล่าสุดบริษัทขยายลงทุนในเวียดนาม ด้วยการตั้งบริษัทย่อยถือหุ้น 49% ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล 310 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 30 เมกะวัตต์ ทยอย COD ในปี 2562-2566 และทำให้มีการลงทุนส่วนของเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 120 เมกะวัตต์ เป็น 460 เมกะวัตต์

ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 300 เมกะวัตต์ ที่ปะเทศโอมาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์นี้

การลงทุนโรงไฟฟ้าเอสพีพีและการลงทุนในต่างประเทศจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2562– 2566 จะเป็นรายได้เสริมระหว่างที่รอโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ( IPP) จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ ที่ทยอยเปิดดำเนินการจนครบทุกยูนิตในปี 2567 คาดว่ารายได้ของกัลฟ์จะเพิ่มเป็น 1.4-1.5 แสนล้านบาทต่อปี