'กคช.' มอบรางวัล 8 ชุมชนดีเด่น 'การเคหะฯ'

'กคช.' มอบรางวัล 8 ชุมชนดีเด่น 'การเคหะฯ'

"กคช." มอบรางวัล 8 ชุมชน ดีเด่นการเคหะฯ "ชุมชนบ้านเอื้ออาทรระยอง-บ้านเอื้ออาทรรัตนาธิเบศร์" ชนะเลิศ อาคารแนวราบ-แนวสูง ด้าน "ผู้ว่าฯกคช." เผยหวังให้เกิดการพัฒนาเข้มแข็งยั่งยืน

เมื่อวันที่ 2 ก.ย.61 นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นประธานการจัดกิจกรรมมอบรางวัลโครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2561 (แชมป์ ชน แชมป์) โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 มีชุมชนที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัล 8 ชุมชน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อาคารแนวราบ และอาคารแนวสูง ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศจะได้เงินรางวัล 40,000 บาท และรางวัลชมเชยอีก 2 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลกว่า 300,000 บาท ซึ่งมีชุมชนที่เข้ารอบและได้รับรางวัลในวันนี้จำนวนทั้งสิ้น 8 ชุมชน ดังนี้ประเภทชุมชนอาคารแนวราบ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ชุมชนบ้านเอื้ออาทรระยอง (วังหว้า) รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ เคหะชุมชนขอนแก่นระยะ1-3 รางวัลชมเชย ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรรังสิต คลอง 9 และเอื้ออาทรประจวบคีรีขันธ์ (ปราณบุรี) ส่วนประเภทชุมชน อาคารแนวสูง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรรัตนาธิเบศร์ (ท่าอิฐ) รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง 1 รางวัลชมเชย ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (พหลโยธิน กม.44) และ บ้านเอื้ออาทรเศรษฐกิจ 3 โดยพิจารณาด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม ความสะอาดของชุมชน การบำรุงรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง การมีส่วนร่วมของชุมชน การบริหารจัดการ และการนำเงินรางวัลที่ได้ไปต่อยอดในการพัฒนาชุมชน และที่สำคัญเน้นการเป็นชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน

นายธัชพล กล่าวว่า โครงการประกวดชุมชนสดใส จิตใจงดงาม ประจำปี 2561 (แชมป์ ชน แชมป์) เป็นการมอบรางวัลให้กับชุมชนดีเด่นของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 แล้ว และได้รับการตอบรับจากชาวชุมชนเป็นอย่างดี สำหรับปีนี้จัดการประกวดขึ้นภายใต้แนวคิด "แชมป์ชนแชมป์" โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตัดสิน ลงพื้นที่ตรวจให้คะแนน โดยพิจารณาด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม ความสะอาดของชุมชน ทัศนียภาพความร่มรื่น การบำรุงรักษาทรัพย์สินส่วนกลางให้สามารถใช้งานได้ดี ด้านการมีส่วนร่วม พิจารณาจากการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ตามความต้องการของชุมชน ส่งเสริมความสามัคคี ด้านบริหารจัดการชุมชน ต้องมีการจัดทำแผนชุมชนทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน บริหารงานการเงินด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ และด้านการรักษามาตรฐานและคุณภาพชุมชน พิจารณาจากการรักษาคุณภาพของชุมชนให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานชุมชน รวมถึงมีการนำเงินรางวัลจากการประกวดไปต่อยอดการพัฒนาชุมชน ซึ่งภารกิจของการเคหะแห่งชาตินอกจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยแล้ว งานด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม รวมทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นหนึ่งในกลไกที่การเคหะแห่งชาติ ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง มีการรณรงค์ให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน การจัดกิจกรรมในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ชาวชุมชนได้รับทราบภารกิจด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของการเคหะแห่งชาติ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและชุมชนโดยส่วนรวม

“ผมไม่ต้องการให้มองในเรื่องเงินรางวัลเป็นเรื่องใหญ่ สิ่งที่ได้รับมามีค่ามากกว่าเงินรางวัลมากมายนั่นคือ การเป็นชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน จะเห็นได้จากหลายๆ ชุมชนที่มีการพัฒนาในทิศทางที่ดี มีผู้นำที่ดี สามารถสร้างเครือข่ายภายในชุมชนและภายนอกชุมชน ก่อให้เกิดประชาสังคมที่มีพลังในการพัฒนาชุมชน กรรมการชุมชนมีจิตอาสา คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน สมาชิกในชุมชนสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้ระเบียบการอยู่อาศัยเดียวกัน การจัดให้มีการประกวดชุมชนดีเด่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมานั้นยิ่งใหญ่ คุ้มค่ากับการดำเนินการ ได้เห็นถึงการพัฒนาชุมชนของสมาชิกในชุมชนได้เป็นอย่างดีและก่อให้เกิดความภาคภูมิใจให้กับชุมชนของท่าน” นายธัชพล กล่าว