จับหนุ่มใช้มือถือถ่ายใต้กระโปรงสาว อ้างเหยื่อหน้าตาดี-ผิวขาว

จับหนุ่มใช้มือถือถ่ายใต้กระโปรงสาว อ้างเหยื่อหน้าตาดี-ผิวขาว

ญาติพาหนุ่มใช้มือถือถ่ายใต้กระโปรงสาวมามอบตัว อ้างเหยื่อหน้าตาดี-ผิวขาว เกิดอารมณ์ชั่ววูบ

วันที่ 1 กันยายน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า และฝ่ายสืบสวนสน.ร่มเกล้า ร่วมกันแถลงผลควบคุมตัวนายวิชาดา ทรัพย์ทอง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ซอยลาดพร้าว 134 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นผู้ต้องหาคดีแอบถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิงหลังทางญาติพามามอบตัวเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา

จับหนุ่มใช้มือถือถ่ายใต้กระโปรงสาว อ้างเหยื่อหน้าตาดี-ผิวขาว

พล.ต.ต.สมพงศ์ กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุคนร้าย 1 คน ใช้โทรศัพท์มือถือก่อเหตุถ่ายใต้กระโปรงผู้หญิงแล้วหลบหนีไปโดยพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจจึงมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ร่มเกล้า เร่งตามตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

พ.ต.อ.นันทภูมิ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 31 ส.ค. เวลา 18.30 น. ฝ่ายสืบสวนสน.ร่มเกล้า ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่าคนร้ายคือนายวิชาดา ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และเป็นคนในพื้นที่สน.ร่มเกล้า จึงได้ติดต่อไปให้เข้ามามอบตัว ต่อมาทางญาติก็ได้พานายวิชาดา เข้ามอบตัว จากการสอบสวนนายวิชาดา ให้การว่าก่อนก่อเหตุได้ขับรถจยย. ส่งภรรยาไปทำงาน เมื่อส่งเสร็จแล้วขณะขับรถกลับได้พบเห็นผู้เสียหายหน้าตาดี ผิวขาว เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงก่อเหตุดังกล่าว หลังก่อเหตุผู้ต้องหาเห็นข่าวรู้สึกกลัวจึงลบรูปที่ถ่ายมา ประกอบกับทะเลาะกับภรรยาเรื่องข่าวที่ออกไปจึงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่

พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่สน.ลาดพร้าว ล่าสุดถูกตำรวจสน.โคกครามจับกุมคดียาเสพติด ต้องโทษจำคุก 6 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน แต่จากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ส่วนภาพของกลางผู้ต้องหาอ้างว่าภาพมืดมองอะไรไม่เห็น และได้ลบไปแล้วโดยไม่ได้ส่งต่อให้ใคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กำชับแล้วว่าหากพบว่าส่งออกไปจะโดนโทษเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษหนักมาก อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวเป็นคดีลหุโทษ สามารถดำเนินคดีได้ทั้งส่งฟ้องศาล หรือเปรียบเทียบปรับ 5,000-10,000 บาท ซึ่งทางผู้เสียหายยินยอมให้ทำการเปรียบเทียบปรับทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเทียบปรับสูงสุด 10,000 บาท และทำประวัติไว้ก่อนปล่อยตัวกลับไป