'การบินไทย' MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

'การบินไทย' MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

"การบินไทย" MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกันจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการสินค้าเกษตรปลอดภัยสูง เพื่อครัวการบินไทย

โดยมีนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้ลงนามบันทึกความร่วมมือดังกล่าว พร้อมด้วยนางภัครา เรืองสิรเดโช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน บริษัท การบินไทยฯ นายคมสัน จำรูญพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกิตติพันธุ์ โรจนชีวะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทยฯ และนายพูลลาภ อุไรงาม เกษตรและสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานใหญ่ การบินไทย

'การบินไทย' MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทย ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการอันมุ่งเน้นด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา การบินไทยมีโครงการช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกรในหลากหลายรูปแบบ เช่น การสั่งซื้อผลผลิตทางการเกษตรทั้งจากภาคเหนือและภาคใต้ นอกจากนี้ การบินไทยยังมีนโยบายสนับสนุนผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรที่ผลิตขึ้นภายในประเทศไทย ตามพันธกิจหลักในการให้บริการของสายการบินแห่งชาติที่มีความมุ่งมั่นรักษามาตรฐานการบริการ อีกทั้งเพื่อให้ครัวการบินของการบินไทย มีวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย ให้บริการลูกค้า จึงเกิดความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ในการนำผลผลิตด้านการเกษตรจำพวกผักและผลไม้ของจังหวัด มาให้บริการผู้โดยสารของการบินไทย ทั้งในส่วนภาคพื้นและบนเครื่องบิน ซึ่งปัจจุบันการทำการเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทรานั้น คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย อันเป็นที่มาของ"พืชผักเบอร์ 8"ซึ่งเป็นมาตรฐานของจังหวัดที่เทียบเคียงได้กับมาตรฐานระดับประเทศ GAP (Good Agriculture Practices) ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทรามีคุณภาพ สด สะอาด และปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยสนับสนุนสินค้าคุณภาพที่ผลิตโดยเกษตรกรไทยสร้างรายได้แก่เกษตรกร รวมทั้งช่วยส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราให้มีความยั่งยืนต่อไป

'การบินไทย' MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรกรรมตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้กำหนดให้มีการบริหารจัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจรเป็นรายจังหวัด ที่อาศัยแนวทาง "การตลาดนำการผลิต" ในการจัดทำแผนการผลิตสินค้าเกษตรแบบครบวงจร นับตั้งแต่เริ่มต้นผลิตจนถึงขายผลผลิต ซึ่งอาศัยจุดเด่นของจังหวัด ศักยภาพการผลิต คำนึงถึงความต้องการของตลาด และมีแหล่งรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน โดยการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรสามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้แก่เกษตรกร และต่อยอดสู่ความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม

'การบินไทย' MOU ก.เกษตรฯ แปรรูปสินค้าเกษตรเสิร์ฟบนเครื่อง

ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทรามีความโดดเด่นในการเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยสูงตามมาตรฐานเบอร์ 8 ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทรา "มีคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" อีกทั้งฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้นำด้านการผลิตอาหารเพื่อให้บริการบนสายการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน จึงมีความต้องการวัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย จากแหล่งผลิตชั้นดี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะต่อยอดสร้างความสัมพันธ์เพื่อขยายโอกาสทางการค้า ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยสูง ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตามแนวทางการตลาดนำการผลิต บนพื้นฐานของความร่วมมือแบบประชารัฐ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการผลิตและศักยภาพของกลุ่มเกษตรกร ยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตรของจังหวัด และสนับสนุนการสร้างมาตรฐานการผลิตสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ รวมถึงการสร้างตราสินค้าร่วมกัน โดยอาศัยตราสินค้าของครัวการบินของการบินไทย ที่มีความเข้มแข็งและน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ

อนึ่ง การลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันครั้งนี้ เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าของเกษตรกรไทย และส่งมอบการบริการอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพ ปลอดสารพิษ ส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีรายได้จากสินค้าการเกษตรของไทยบนสายการบินแห่งชาติสู่ตลาดโลก อีกทั้งยังเป็นปณิธานของการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติในการรับผิดชอบต่อสังคมในการคัดสรรผลผลิตและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการของการบินไทย เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างสูงสุด