“พล.ต.ต.สุรเชษฐ์” คุมตัวผู้ต้องหาฆ่าไฮโซสาวเชอรี่ กลับมาสอบสวนที่ สน.โชคชัย เตรียมขยายผลปมทรัพย์สินที่หายไป ด้านมือฆ่ารับสารภาพ ทำไปเพราะถูกด่าบุพการีและโดนดูถูก ปฏิเสธไม่รู้เห็นเรื่องทรัพย์สิน ตำรวจเตรียมนำตัวทำแผน 09.00น.
เมื่อเวลา 00.55น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ควบคุมตัว นายอัศยา ชัยภา หรือโก้ ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือเชอรี่ ไฮโซสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ จากด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมน้องชายถึงกองบินตำรวจท่าแร้ง เมื่อเดินทางมาถึงได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเดินทางมายัง สน.โชคชัย ทันที
โดยเมื่อมาถึง สน.โชคชัย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้แถลงผลการจับกุมว่า คดีนี้รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้สั่งการและได้มีการประสานความร่วมมือกับทางกัมพูชามาอย่างใกล้ชิด และจากการสืบสวน ได้ส่งชุดทำงานไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เดือนกว่าแล้ว จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าที่ทำไปเพราะทะเลาะวิวาท และใช้อารมณ์ ส่วนรายละเอียดเรื่องมูลเหตุจูงใจ ทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต จะมีการขยายผลต่อ รวมถึงจะต้องสอบสวนด้วยว่า มีการเตรียมการก่อเหตุมาก่อนหรือไม่ด้วย และวิธีการฆ่าเป็นอย่างไร
โดยในวันนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล4 จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเวลา 09.00น.
ขณะที่ นายอัศยา หรือ นายโก้ ผู้ต้องหา ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัว พ่อแม่ของผู้เสียชีวิต โดยบอกว่า ที่ทำไปเป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของทรัพย์สิน และไม่ได้รู้เรื่องเงินหลายล้านบาทของผู้เสียชีวิต และในวันเกิดเหตุได้ทะเลาะกัน โดยผู้เสียชีวิต ได้หยิบไม้เบสบอลขึ้นมา จากนั้นได้มีการฉุดกระชากกัน แล้วผู้เสียชีวิต ด่าทอและดูถูกตนเอง ด่าบุพการี รวมถึงพูดเรื่องแฟนเก่า และเรื่องรถ ซึ่งทำให้ตนเองเกิดระงับอารมณ์ไม่อยู่ และทนไม่ไหว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะกันมาตลอดด้วย ดังนั้น จึงใช้ไม้เบสบอลตีเข้าที่ศรีษะของผู้เสียชีวิต ครั้งแรกก็สลบ และก็ตีซ้ำไปอีก
นายโก้ ยังเล่าด้วยว่า ไม้เบสบอลที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว เป็นของผู้เสียชีวิตที่ซื้อติดตัวไว้ กรณีมีเหตุฉุกเฉิน และตนกับผู้เสียชีวิต ได้คบหากันมานานกว่า 1 ปี อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่ครอบครัวไม่รู้ และมีหลายเรื่องที่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมรับในตัวของตน และมีกฎหลายข้อทำให้ตนรู้สึกอึดอัด เพราะตนเองก็มีลูกสาว มีครอบครัว
นายโก้ ยังให้การอ้างอีกว่า การก่อเหตุดังกล่าว ไม่ได้เตรียมการมาก่อน และที่หลบหนีก็ไม่ได้วางแผน เพียงแค่ต้องการประวิงเวลา เพื่อให้ได้คิดทบทวน ซึ่งหลังเกิดเหตุคิดที่จะมอบตัว แต่สถานการณ์พาไปให้หลบหนี ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า น้องชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้พาหลบหนี เพราะขณะที่ไปรับน้องชาย ตนบอกว่าจะพาน้องชายไปเที่ยว แต่ด้วยความที่น้องชายเห็นสภาพอาการของตนเองที่จิตตก จึงเป็นห่วง ตนจึงจึงได้สารภาพกับน้องชายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และคุยกันว่าต้องกลับบ้าน เพราะต้องกลับไปดูแลพ่อแม่
ทางด้าน นายอนุวัฒน์ ชัยภา น้องชายนายโก้ บอกว่า ไปรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตอนไปถึงประเทศกัมพูชาแล้ว เพราะตอนไปพบพี่ชายคุยกันเพียง 1ชั่วโมงเท่านั้น และสังเกตุเห็นพี่ชายมีความทุกข์ใจ ดังนั้น จึงอยู่เป็นเพื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ นายโก้ ถูกดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่วน นายอนุวัฒน์ น้องชายของนายโก้ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นผู้ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหา ซึ่งทั้งสองจะถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.โชคชัย ในคืนนี้ และในวันพรุ่งนี้ จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนที่จะไปขอศาลอาญาฝากขังต่อไป