สธ.เร่งขับเคลื่อนพชอ.ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

สธ.เร่งขับเคลื่อนพชอ.ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

สธ.เร่งขับเคลื่อนโครงการพชอ.พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน "รมว.สาธารณ" เผยระบบสุขภาพคืบหน้าทุกอำเภอ เน้นพัฒนาชีวิตประชาชาชนทุกระดับทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว. สาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินโครงการไทยนิยมยั่งยืนตามนนโยบายของรัฐบาล โดยกระทรวงได้มุ่งเน้นไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่เพื่อพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะระบบสุขภาพ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ (พชอ.) ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั่วประเทศ โดยเริ่มมาตั้งแต่ตั้งแต่ปี 2559 มีอำเภอนำร่อง 70 กว่าอำเภอ ทั้งนี้การดำเนินการจะมีคณะกรรมการ 2 ระดับ คือระดับชาติ มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธาน คณะกรรมการระดับอำเภอมีคณะกรรมการจาก 3 ภาคส่วนคือภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า โครงการนี้ มีเป้าหมายหลักคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ รวมถึงพัฒนาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ โดยเน้นไปที่กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการใน 4 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ โครงการ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 4.0 หรือ อสม. 4.0 โครงการมหัศจรรย์ 1,000 วัน โครงการสร้างอาชีพสำหรับผู้ลงทะเบียนรายได้น้อย ผ่านการอบรมนวดไทย รวมทั้งการสร้างผู้ช่วยพยาบาล และโครงการติดตามผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพ

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ตนได้มอบนโยบายการดำเนินการให้กับเจ้าหน้าที่แล้วพร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้ทำความเข้าใจในโครงการต่าง และอบรมถ่ายทอดกิจกรรมให้มีความชัดเจน นอกจากนี้หากเจอปัญหาหรืออุปสรรคในพื้นที่ใดต้องรีบหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อให้โครงการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามทุกโครงการที่ดำเนินการต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้และงบประมาณ ที่สำคัญต้องลำดับความจำเป็นและเร่งด่วนด้วย

“โครงการของกระทรวงสาธารณสุข ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้ขณะนี้โครงการ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและระบบสุขภาพอำเภอ ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ได้ดำเนินการแล้วทุกอำเภอทั่วประเทศ” รมว.สาธารณสุข กล่าว