AH - ซื้อ

AH - ซื้อ

ครึ่งหลังโตต่อเนื่อง

แม้ว่าราคาหุ้น AH จะปรับตัวลดลง 20% ตั้งแต่วันที่ 22 เดือน พ.ค.เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยเราคาดว่ากำไรไตรมาส 3/61 จะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคำสั่งผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่จะส่งผลให้กำไรเติบโตต่อเนื่องในระยะกลาง นอกจากนี้หากการร่วมลงทุนกับ VINFAST ในเวียดนามประสบความสำเร็จจะสนับสนุนให้เติบโตได้ในระยะยาว ปัจจุบันซื้อขายหุ้นปี 2561 PER ที่ 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ 12 เท่า เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”ด้วยราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 45.50 บาท

ยอดขายเติบโตจนถึงปี 2562

AH ยังคงเป้าการเติบโตยอดขาย ปี 2561 ในช่วง 3-5% YoY โดยบริษัทคาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 2.08 ล้านคัน ในปี 2561(เพิ่มขึ้น 5% YoY) ซึ่งสอดคล้องกับสภาอุตสาหกรรมที่ได้ประเมินไว้ เราเชื่อว่ารายได้ของ AH ได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/61 มาแล้ว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2561 หนุนโดยการเติบโตของยอดขายในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ (ยอดขายในประเทศที่แข็งแกร่งหนุนโดยการขยายตัวของ GDP และรายได้ภาคเกษตรกรรมที่สูงขึ้น) นอกจากนั้นรายได้จากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ (Mitsubishi Expander) โดย Mitsubishi ยังมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพิ่มในไตรมาส 4/61 ดังนั้น เราคาดว่า AH รายงานยอดขายเติบโตในช่วงครึ่งหลังปี 2561 สูงขึ้น 6 % YoY

ในช่วงระยะกลาง รายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่สำหรับรถกระบะรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2562 และ รายได้จาก VINFAST ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้ามาในใตรมาส 3/61 นอกจากนี้ การร่วมทุนระหว่าง AH กับ SGAH จะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างความร่วมมือกันในระยะยาวผ่านทางการวิจัยและพัฒนาและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน

รายได้จากเวียดนามในปี 2561

หลังจากที่บริษัทเซนต์ MOU กับ VINFAST แล้ว VINFAST เตรียมสร้างโรงงานใหม่มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 ที่เมืองไคฟง โดย AH จะรับผิดชอบด้านการบริหารและทำ Jig และ Die สำหรับทั้งสองรุ่นแรก ซึ่งคาดว่าเปิดตัวในไตรมาส 3/62 VINFAST ตั้งเป้าผลิตรถยนต์จำนวน 180,000 คันต่อปี เราคาดว่ารายได้จากการร่วมทุนในครั้งนี้ยังมีสัดส่วนที่น้อยในปี 2562 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการผลิต

แนวโน้มกำไรที่น่าประทับใจในช่วงไตรมาส 3/61

ยอดขายในไตรมาส 2/61 ของ AH เติบโตขึ้น 10% YoY เราคาดว่า ยอดขายเติบโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/61 หนุนโดย การเติบโตของยอดขายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับรถกระบะขนาด 1 ตัน, รถยนต์ SUV และรถยนต์ PPV (ชิ้นส่วนสาหรับรถกระบะคิดเป็น 60% ของยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์) ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน เราคาดว่ารายได้จะเติบโต 8%YoY ในไตรมาส 3/61 การผลิตที่มีประสิทธิภาพขึ้น,การประหยัดต่อขนาด, มูลค่าผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจะกระตุ้นอัตรากำไรขั้นต้นจาก 5% ในไตรมาส 3/60 มาอยู่ที่ 6.7% ในไตรมาส 3/61 ตามที่ประมาณการไว้ นอกจากนี้ AH จะได้รับดอกเบี้ยจากเงินลงทุนทั้งสิ้น 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อไตรมาสและมีส่วนแบ่งกำไรจาก SGAH  ดังนั้น เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 315 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% YoY และ 4% QoQ