พม.เร่งช่วยเหลือเด็กหญิงออทิสติก ถูกแฟนพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศ

พม.เร่งช่วยเหลือเด็กหญิงออทิสติก ถูกแฟนพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศ

พม. แถลงเตรียมจัดงาน 16 ปี ประชารัฐพัฒนาไทย ก้าวไกลสู่สวัสดิการสังคม - เร่งช่วยเหลือเด็กหญิงออทิสติก ถูกแฟนพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศ ที่ จ. สงขลา

วานนี้ (30 ส.ค. 61) เวลา 11.00 น. ที่บริเวณโถง ชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ รองโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการแถลงข่าวการดำเนินงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้แก่ 1) ประเด็นการจัดงาน "16 ปี ประชารัฐพัฒนาไทย ก้าวไกลสู่สวัสดิการสังคม” 2) ประเด็นการจัดกิจกรรมการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว ภายใต้แนวคิด "มรดกทางวัฒนธรรม สร้างสัมพันธ์ครอบครัว” ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ3) ประเด็นการช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ป่วยเป็นออทิสติกถูกแฟนของพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศ ที่จังหวัดสงขลา แถลงโดยนางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ รองโฆษกกระทรวง พม. ส่วนประเด็นที่ 4) การรับแจ้งและช่วยเหลือกรณีทารกถูกทอดทิ้งในที่สาธารณะ แถลงโดย นางสาวดรุณี มนัสวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือสังคม

 
วันที่ 1 กันยายน ของทุกปี เป็นวันสถาปนากรมประชาสงเคราะห์ หรือ ปัจจุบัน คือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งตลอดระยะเวลา 16 ปี พส. ได้ยึดมั่นการเป็นองค์กรหลักในการจัดสวัสดิการ เสริมสร้างพลังทางสังคมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนท้องถิ่น มุ่งให้การช่วยเหลือ คุ้มครอง และพัฒนาศักยภาพประชาชนในทุกระดับ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้แนวคิด "ประชารัฐพัฒนาไทย ก้าวไกลสู่สวัสดิการสังคม” สำหรับการจัดงานวันสถาปนาฯ ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้กิจกรรม "16 ปี ประชารัฐพัฒนาไทย ก้าวไกลสู่สวัสดิการสังคม” โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 กันยายน 2561 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป ประกอบด้วย กิจกรรมพิธีสงฆ์ และการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำกระทรวง นอกจากนี้ ยังได้จัดพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัล แก่หน่วยงานและองค์กรที่สร้างคุณความดีและประโยชน์แก่สังคมจนเป็นที่ประจักษ์ ดังนี้ 1. มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่สถานประกอบการที่จ้างงานกลุ่มผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 44 แห่ง อาทิ สมคิดรีไซเคิล เจ้สาสั่งลุย ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอด และบริษัทพาเจริญบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น 2. มอบรางวัลตำบลต้นแบบ ประจำปี 2561 แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการโครงการ "ตำบลต้นแบบ ห่วงใยไม่ทอดทิ้งกัน” โดดเด่นในพื้นที่ โดยมีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเป็นพี่เลี้ยง จำนวนทั้งสิ้น 6 แห่ง แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1) ระดับดีเด่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา จังหวัดเชียงใหม่ ผลงาน "ข่วงเปาโมเดล” เป็นการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและฟื้นฟูศักยภาพแก่กลุ่มเสี่ยง ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่งจนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ 2) ระดับดี ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลดงเจน จังหวัดพะเยา และ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแฝก จังหวัดสุโขทัย และ 3) ระดับชมเชย องค์การบริหารส่วนตำบลวังเย็น จังหวัดฉะเชิงเทรา องค์การบริหารส่วนตำบลคำโตนด จังหวัดปราจีนบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลนางตะเคียน จังหวัดสมุทรสงคราม และ 3. การมอบทุน"ประชาบดี”แก่บุตรหลานข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้างที่มีรายได้น้อย
 
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งได้ตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีของไทยให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อนำไปสู่การสร้างเสริมสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็งและเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ กระทรวง พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดกิจกรรมการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว ภายใต้แนวคิด "มรดกทางวัฒนธรรม สร้างสัมพันธ์ครอบครัว” เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงก้าวแรกของความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในการบูรณาการของทั้งสองกระทรวงที่จะร่วมกันขับเคลื่อนการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ด้วยการปลูกฝังค่านิยม วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยให้แก่สมาชิกในครอบครัว รวมถึงส่งเสริมการใช้เวลา เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว สำหรับกิจกรรมดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2561 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 500 คน ประกอบด้วย ครอบครัวผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. กระทรวง วธ. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมการท่องเที่ยว แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน โดยภายในงาน มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว ได้แก่ กิจกรรม Family Walk Rally ส่งเสริมสัมพันธภาพครอบครัว 2 ฐานการเรียนรู้ คือ 1) กิจกรรมฐานเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ศิลปะและประวัติศาสตร์ จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง วธ. และ 2) กิจกรรมฐานเรียนรู้การใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. นอกจากนี้ ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว ระหว่าง 13 หน่วยงาน ได้แก่ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กรมกิจการผู้สูงอายุ(ผส.) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ศูนย์มานุษยวิทยา สิรินธร (องค์การมหาชน) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมการท่องเที่ยว และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
 
       สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ป่วยเป็นออทิสติกและถูกแฟนของพี่สาวล่วงละเมิดทางเพศ ที่จังหวัดสงขลา นั้น กระทรวง พม. โดยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา (พมจ.สงขลา) พร้อมด้วยทีม One Home จังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวง พม. โดยได้ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ ดูแลติดตามสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมทั้งเร่งเยียวยาจิตใจของเด็กหญิงดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวต้องหาที่กระทำความผิดได้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศยังคงมีอยู่ในสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งกรณีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศของศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวง พม. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 29 สิงหาคม 2561 มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ จำนวน ทั้งสิ้น 419 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กที่ถูกกระทำจากบุคคลในครอบครัว จำนวน 151 คน และถูกกระทำจากบุคคลภายนอกครอบครัว จำนวน 268 คน ทั้งนี้ ทุกคนในครอบครัวและทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นเด็กและเยาวชนที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางกระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือตามภารกิจอย่างเต็มที่
 
สำหรับปัญหาการทิ้งเด็กทารกที่เกิดขึ้นรายวัน และยังคงเป็นปัญหาสังคมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งของศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – วันที่ 28 สิงหาคม 2561 มีเด็กทารกถูกทอดทิ้งในที่สาธารณะจำนวน ทั้งสิ้น 172 คน โดยในปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 60 – วันที่ 28 ส.ค. 61) มีเด็กทารกถูกทอดทิ้งในที่สาธารณะจำนวน 69 คน ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ทอดทิ้งเด็ก มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 306 และ 307 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย หรือบาดเจ็บสาหัส ต้องระวางโทษฐานฆ่าคนตายฯ หรือบาดเจ็บสาหัส มาตรา 290 ,297, และ 298 (ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี) และตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 25 และมาตรา 26 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของกรณีเด็กชายอายุประมาณ 3 วัน ที่ถูกนำมาทิ้งบริเวณตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 นั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือและติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการติดตามหาครอบครัวของเด็กภายหลังจากการดูแลรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ได้รับเด็กชายดังกล่าวจากโรงพยาบาลศิริราช เข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเด็กทารกถูกทอดทิ้ง หรือผู้ที่ประสบปัญหาทางสังคม และต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางกระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือตามภารกิจอย่างเต็มที่